Spread the love

1 min read

10 คำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ก่อนว่าจ้าง “รับเขียนบทความ”

การจ้างรับเขียนบทความเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์และสร้างคอนเทนต์คุณภาพให้กับธุรกิจหรือเว็บไซต์ของคุณได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากไม่มีความเข้าใจใน “คำศัพท์” เฉพาะด้าน อาจทำให้เกิดความสับสน ระหว่างเจ้าของงานกับผู้เขียน เนื้อหาที่ได้อาจไม่ตรงตามคาดหวัง และเสียเวลาในการปรับแก้ ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ 10 คำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ก่อนเริ่มว่าจ้างบริการรับเขียนบทความ เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารกับนักเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คำศัพท์พื้นฐาน 10 คำควรรู้ก่อนเริ่มว่าจ้างบริการรับเขียนบทความ

  1. บรีฟ (Brief): เป็นเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญที่เจ้าของงานส่งให้ผู้เขียนประกอบการทำงาน
  • บรีฟมักจะระบุวัตถุประสงค์ของบทความ กลุ่มเป้าหมาย สไตล์การเขียน โทนและแนวทางในการนำเสนอ รวมถึงคีย์เวิร์ดหลัก เช่น “รับเขียนบทความ”
  • การให้บรีฟที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้เขียนเข้าใจโจทย์ได้ตรงและลดระยะเวลาในการแก้ไขงานซ้ำๆ

เคล็ดลับ:

  • ระบุเป้าหมายที่ต้องการชัดเจน เช่น ต้องการดึงคนติดตามในโซเชียลมีเดียหรือเน้นสร้างยอดขาย
  • แนบตัวอย่างบทความแนวที่คุณชอบ เพื่อช่วยให้ผู้เขียนเข้าใจสไตล์

  1. SEO (Search Engine Optimization): การปรับแต่งเนื้อหาให้เป็นมิตรกับเสิร์ชเอนจิ้น เพื่อให้ติดอันดับการค้นหาใน Google มากขึ้น
  • การใส่คีย์เวิร์ดหลัก “รับเขียนบทความ” ควรกระจายอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ยัดคีย์เวิร์ดจนเกินไป
  • นอกจากนี้ยังควรใส่ LSI Keywords เช่น “บริการเขียนบทความ”, “เขียนเนื้อหาเว็บไซต์” เพื่อช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้อง

เคล็ดลับ:

  • ใช้คีย์เวิร์ดในส่วนหัวเรื่อง ย่อหน้าแรก และย่อหน้าสุดท้ายอย่างเหมาะสม
  • เพิ่ม Internal Link (ลิงก์เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์) และ External Link (ลิงก์ออกไปยังเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ) เพื่อช่วยเสริมคะแนน SEO
  1. คีย์เวิร์ดหลัก (Main Keyword): คำหรือวลีที่เป็นเป้าหมายหลักในการค้นหาของผู้ใช้งาน ตัวอย่างเช่น “รับเขียนบทความ”
  • เมื่อผู้เขียนรู้คีย์เวิร์ดหลัก จะช่วยกำหนดโจทย์และเนื้อหาได้ตรงตามจุดประสงค์ SEO
  • ไม่ควรกำหนดคีย์เวิร์ดเป็นประโยคยาวเกินไป เพราะอาจทำให้ยัดคีย์เวิร์ดไม่เป็นธรรมชาติ
  1. LSI Keywords (Latent Semantic Indexing Keywords) ความหมาย: คำหรือวลีที่มีความหมายใกล้เคียงหรือเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก
  • เช่น หากคีย์เวิร์ดหลักคือ “รับเขียนบทความ” LSI Keywords อาจเป็น “นักเขียนบทความมืออาชีพ”, “เขียนบล็อก SEO” หรือ “เขียนคอนเทนต์สร้างยอดขาย”
  • การใส่ LSI Keywords ช่วยให้บทความดูเป็นธรรมชาติและครอบคลุมเนื้อหาเพิ่มขึ้น

เคล็ดลับ:

  • กระจาย LSI Keywords อย่างสม่ำเสมอตลอดบทความ แต่ไม่ควรเกิน 2–3% ของปริมาณคำทั้งหมด
  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์คำค้น เช่น Google Keyword Planner หรือ Uber suggest  เพื่อหา LSI Keywords ที่เหมาะสม
  1. CTA (Call to Action): ข้อความชักชวนหรือคำสั่งที่กระตุ้นให้ผู้อ่านทำบางสิ่งบางอย่าง เช่น คลิก ซื้อ สั่งซื้อ หรือสมัครสมาชิก
  • ตัวอย่าง CTA ในบทความอาจเป็น “สนใจใช้บริการรับเขียนบทความ ติดต่อเราวันนี้”
  • CTA ที่ชัดเจนช่วยเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้อ่านให้กลายเป็นลูกค้า หรือผู้ติดตาม

เคล็ดลับ:

  • วาง CTA ให้เห็นเด่นชัด ไม่จมหายไปกับเนื้อหา
  • ใช้คำที่กระตุ้นอารมณ์ เช่น “ฟรี!”, “รับส่วนลดทันที” เพื่อสร้างความรู้สึกเร่งด่วน
  1. Meta Description: ข้อความสั้น ๆ ที่แสดงอยู่ใต้ลิงก์ในผลการค้นหาของ Google
  • ควรมีความยาวประมาณ 150–160 ตัวอักษร และควรมีคีย์เวิร์ดหลัก เช่น “รับเขียนบทความ”
  • Meta Description ที่เขียนดี จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) จากผลการค้นหา
  1. แท็ก (Tag): คำสำคัญหรือคำวลีที่ใช้อธิบายเนื้อหาของบทความ และช่วยจัดหมวดหมู่ให้บทความค้นหาได้ง่ายขึ้น
  • ในบทความนี้ เราจะใส่แท็ก 3 คำที่เกี่ยวข้อง คือ “รับเขียนบทความ”, “บริการเขียนเนื้อหา”, “บทความ SEO”
  • แท็กมีหน้าที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความที่คล้ายกันได้สะดวกขึ้นบนเว็บไซต์
  1. Header Tags (H1, H2, H3 ฯลฯ): แท็กหัวข้อใน HTML ที่ช่วยจัดโครงสร้างและลำดับความสำคัญของเนื้อหา
  • H1 คือหัวเรื่องหลักของบทความ ควรมีเพียง 1 ครั้ง เพื่อกำหนดจุดประสงค์หลัก
  • H2 และ H3 ใช้สำหรับหัวข้อย่อยและหัวข้อย่อยรอง ให้ผู้อ่านมองเห็นโครงสร้างเนื้อหาอย่างชัดเจน
  • ในบทความนี้ เราใช้ H2 สำหรับหัวข้อหลัก เช่น “คำศัพท์ที่ 1…9” และ H3 เพื่อแบ่งเนื้อหาย่อย (ถ้ามี)
  1. Backlink: ลิงก์ย้อนกลับที่ชี้มายังเว็บไซต์หรือบทความของคุณจากเว็บไซต์ภายนอก
  • Backlink ที่มีคุณภาพสูงช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือ และปรับปรุงอันดับ SEO
  • เจ้าของงานอาจขอให้ผู้เขียนแนบลิงก์อ้างอิงจากแหล่งน่าเชื่อถือเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับบทความ
  1. Original Content (เนื้อหาต้นฉบับ): เนื้อหาที่เขียนขึ้นใหม่ ไม่ใช่การคัดลอกหรือดัดแปลงมาจากแหล่งอื่นโดยตรง
  • การเขียนเนื้อหาต้นฉบับช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ และช่วยสร้างคุณค่าให้บทความ
  • ผู้เขียนควรตรวจสอบด้วยโปรแกรมตรวจสอบการลอกเลียนแบบ (เช่น Copyscape) ก่อนส่งมอบงาน

สรุปความสำคัญของการรู้คำศัพท์ก่อนจ้างผู้รับเขียนบทความ การทำความเข้าใจคำศัพท์พื้นฐานเหล่านี้ จะช่วยให้คุณและผู้เขียนบทความสามารถสื่อสารกันได้อย่างชัดเจน ลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิด และทำให้ผลงานตรงกับวัตถุประสงค์ ตั้งแต่การกำหนดบรีฟ การวางคีย์เวิร์ด การออกแบบ SEO Structure การเลือกใช้ CTA ไปจนถึงการตรวจสอบความเป็นต้นฉบับของเนื้อหา ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณได้รับบทความที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจของคุณมากที่สุด

ต้องการมืออาชีพช่วยเขียนบทความ? บริการเขียนบทความ คุณภาพสูง เน้นการปรับแต่งให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและบริการของคุณ!

เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วย บทความ SEO ที่ช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาของเว็บไซต์ของคุณ

ติดต่อเราตอนนี้เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ!


Spread the love