1 min read
คุณรู้จักไหม? กฎ 10,000 ชั่วโมงกับความสำเร็จในอาชีพการงาน
การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นไม่ง่าย โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูงหรือที่เราเรียกกันว่ามือโปร (Professional) ในแวดวงมืออาชีพมักกล่าวกันว่าหากคุณมีทักษะในการทำงานยอดเยี่ยมในระดับ 2% ของสาขาอาชีพนั้น ๆ คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องการหารายได้อีกต่อไป เพราะจะมีแต่คนแย่งตัวคุณเข้าไปร่วมงานด้วย หนึ่งในทฤษฎีที่กล่าวถึงระยะเวลาที่ต้องใช้ในการฝึกฝนทักษะเหล่านั้นมีชื่อว่า “กฎ 10,000 ชั่วโมง” (10,000-Hour Rule) กฎนี้หมายความว่าอย่างไรและเกี่ยวข้องกับความสำเร็จอย่างไร เราขอนำมาเล่าให้ฟัง
กฎ 10,000 ชั่วโมงคืออะไร ทำไมจึงมีผู้กล่าวว่าเป็นความลับสู่ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
ความหมายของ 10,000 ชั่วโมง
ในปี 2008 มีหนังสือแนวสารคดีจิตวิทยาเล่มหนึ่งออกสู่ตลาดภายใต้ชื่อว่า Outliers, The Story of Success เขียนโดยนักเขียนชื่อดัง Malcolm Gladwell และได้กลายเป็นหนังสือ Bestsellers ตั้งแต่วางจำหน่ายใหม่ ๆ ( มีฉบับแปลไทยในชื่อ “สัมฤทธิ์พิศวง” โดยสำนักพิมพ์ WE LEARN ) หนังสือเล่มนี้อ้างอิงเรื่องราวของผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพจำนวนมาก ตั้งแต่ นักดนตรีชื่อก้องโลกวง The Beatles, บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft และนักกีฬาผู้เป็นตำนานอีกหลายต่อหลายท่านที่ได้ลงมือทำงานอย่างหนักจนประสบความสำเร็จ ข้อสรุปสำคัญที่ได้คือ ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ เขาเรียกมันว่า “กฎ 10,000 ชั่วโมง” โดยยกตัวอย่างว่าวง The Beatles เล่นดนตรีมามากกว่า 10,000 ชั่วโมงในการแสดงกว่า 1,200 ครั้งในประเทศเยอรมัน บิล เกตส์มีโอกาสเข้าถึงคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุ 13 และใช้เวลาเกิน 10,000 ชั่วโมงไปกับการเขียนโปรแกรมที่ในยุคนั้น (ปี 1968) หาเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ยากมากแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ทำให้เขาตั้งบริษัท Microsoft จนสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ฯลฯ
บทสรุปที่มัลคอล์มได้จากการศึกษาผู้ที่ประสบความสำเร็จคือตัวเลขจำนวนชั่วโมงที่คน ๆ หนึ่งทุ่มเทให้กับการฝึกฝนทักษะ ลับฝีมือ และการทำงานจริง เขาอ้างว่าตัวเลข 10,000 ชั่วโมง (หรือราว 7 – 8 ปีของการทำงานเต็มเวลา) จะทำให้คนเราเชี่ยวชาญและรู้ลึกในทักษะอาชีพของตัวเองไม่ว่าจะเป็นสาขาใดก็ตาม และจะทำให้เกิดความสำเร็จในอาชีพตามมาอย่างแน่นอน
แต่กฎ 10,000 ชั่วโมง ใช้ได้จริง ๆ หรือ หากจริง ทำไมยังมีคนไม่ประสบความสำเร็จแม้จะพยายามอย่างหนัก
คำตอบ: อาจไม่จริงเสมอไป
แม้กระแสตอบรับจะเป็นไปในเชิงบวก แต่ก็มีงานวิจัยมากมายที่โต้แย้งทฤษฎีของหนังสือเล่มนี้ว่ามัลคอล์มไม่ได้คำนึงว่าการฝึกฝนของแต่ละคนมีคุณภาพต่างกัน 10,000 ชั่วโมงของคน ๆ หนึ่งอาจจะได้ไม่เท่ากับอีกคนหนึ่งก็เป็นได้ นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก ในบางวงการอย่างเช่นหมากรุกและดนตรี อ้างอิงจากวารสาร Intelligence การฝึกฝนอาจส่งผลต่อความเชี่ยวชาญน้อยกว่านั้น หรือเพียง 12% ดังนั้นการจะสรุปว่าเมื่อทุกคนทำครบ 10,000 ชั่วโมงแล้วจะเก่งจนเป็นยอดฝีมือคงใช้ไม่ได้เสมอไป
ภายหลังศาสตราจารย์ Brooke N. Macnamara และเพื่อนนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Case Western Reserve ทำการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนและความสำเร็จ จากการศึกษาทั้งหมด 9,331 ชิ้น เขาพบว่าการฝึกฝนนั้นแท้จริงให้ผลลัพธ์ 26% ในวงการเกม 21% ในวงการดนตรี 18% ในวงการกีฬา และ 4% ในวงการศึกษา เขายังสรุปด้วยว่าการฝึกฝนและทำงานจนเก่งนั้นมีความสำคัญจริง แต่ไม่ใช่ปัจจัยที่จะชี้เป็นชี้ตายว่าคน ๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จแน่นอน
เรื่องนี้สอนอะไรกับเราบ้าง
การจะขึ้นสู่จุดสูงสุดในแต่ละสาขาอาชีพ ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง การศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่อง และลับฝีมือจนแหลมคมยังคงมีความสำคัญ เพราะการไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความสำเร็จโดยเฉพาะในยุคที่โลกเปลี่ยนไวเช่นทุกวันนี้ ใครที่กำลังมองหาความสำเร็จทั้งด้านธุรกิจและอาชีพของตัวเองลองนำ 3 ข้อนี้ไปพิจารณาดู คนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพอย่างยิ่งใหญ่ล้วนประกอบด้วย
- พรสวรรค์ หมายถึงสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราถนัด สิ่งที่เป็นตัวเราโดยธรรมชาติ นิสัยและบุคลิกคนเราไม่เหมือนกัน ทำให้แต่ละคนมีพรสวรรค์แตกต่างกันไปด้วย ค้นหาให้เจอ มนุษย์ทุกคนล้วนมีข้อดีเป็นของตัวเอง
- พรแสวง หมายถึง ความพยายามที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จ เพราะความสำเร็จของคนเราวัดจากผลงานที่ออกมา ใครที่ไม่พยายามย่อมไม่มีผลงาน มีพรสวรรค์ก็ไร้ค่าหากไม่มีพรแสวง
- ทำสิ่งที่ตลาดต้องการ หมายความว่า งานที่เราทำจะต้องมีตลาดรองรับ และมีคนมองเห็นมูลค่าของมันจนยอมจ่ายเงินให้ หากเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่คนเดียว ตลาดก็จะไม่มี คงยากที่จะสร้างความมั่งคั่ง
แม้กฎ 10,000 ชั่วโมงจะถูกโต้แย้ง และไม่สามารถยืนยันความสำเร็จได้อย่างแน่นอน แต่ก็มีประโยชน์อยู่ไม่น้อยที่ช่วยสร้าง Mindset ของการพัฒนาตัวเอง เพราะหากเรามองไปรอบตัว เราจะพบว่าบรรดาคนเก่งนั้นล้วนรู้ลึกรู้จริงในงานที่ทำ เป็นผลมาจากการคลุกคลีในวงการนั้น ๆ แล้วการเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จนหาคู่แข่งได้ยาก ในบรรดาคนเหล่านั้นหากนับเวลาแล้วอาจได้เกิน 30,000 ชั่วโมงเสียด้วยซ้ำ ใครที่อยากพบความสำเร็จจึงไม่มีทางลัด เริ่มวันนี้แล้วค่อย ๆ เดินไปอย่างไม่ยอมล้มเลิก เชื่อว่าอย่างไรก็ต้องถึงเข้าสักวัน
กฎ 10,000 ชั่วโมงใช้ได้กับทุกอาชีพหรือไม่
คำตอบคือ ใช้ได้แต่ไม่เสมอไป
กฎ 10,000 ชั่วโมงเป็นแนวคิดที่กล่าวว่าหากบุคคลใดต้องการมีความเชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่ง จะต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างเข้มข้นอย่างน้อย 10,000 ชั่วโมง ทฤษฎีนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมากที่ต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีกฎ 10,000 ชั่วโมงก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการบางกลุ่ม โดยนักวิจารณ์บางคนมองว่าทฤษฎีนี้เป็นการมองข้ามปัจจัยอื่นๆ ที่นำไปสู่ความสำเร็จ เช่น พรสวรรค์ สภาพแวดล้อม และการสนับสนุนจากผู้อื่น นอกจากนี้ นักวิจารณ์บางคนยังมองว่าชั่วโมงการฝึกฝนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้บุคคลหนึ่งประสบความสำเร็จในอาชีพการงานได้ หากขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทักษะหรือความรู้ที่เกี่ยวข้อง
จากมุมมองของผม กฎ 10,000 ชั่วโมงใช้ได้กับอาชีพที่ต้องใช้ทักษะเชิงปฏิบัติหรือทักษะทางเทคนิค เช่น นักกีฬา นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ เป็นต้น อาชีพเหล่านี้ต้องการการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถพัฒนาทักษะและความสามารถให้ถึงระดับสูงสุด
สำหรับอาชีพที่ต้องใช้ทักษะทางความคิดหรือทักษะทางสังคม เช่น นักธุรกิจ นักกฎหมาย นักการเมือง เป็นต้น กฎ 10,000 ชั่วโมงอาจไม่จำเป็นมากนัก อาชีพเหล่านี้ต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทฤษฎีหรือหลักการที่เกี่ยวข้องมากกว่าการฝึกฝนเชิงปฏิบัติ
นอกจากนี้ กฎ 10,000 ชั่วโมงอาจไม่ใช้ได้กับอาชีพที่มีลักษณะเฉพาะตัว เช่น ศิลปิน นักเขียน นักออกแบบ เป็นต้น อาชีพเหล่านี้ต้องการพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์มากกว่าการฝึกฝนเชิงปริมาณ
ดังนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน เราควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ รวมถึงทักษะหรือความรู้ที่จำเป็น พรสวรรค์ สภาพแวดล้อม และการสนับสนุนจากผู้อื่น เป็นต้น การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่นำไปสู่ความสำเร็จ
สถิติเกี่ยวกับกฎ 10,000 ชั่วโมง
- การศึกษาของมัลคอล์ม แกลดเวลล์ นักเขียนชาวแคนาดา พบว่านักกีฬาโอลิมปิกระดับแนวหน้าใช้เวลาฝึกฝนเฉลี่ย 10,000 ชั่วโมงก่อนเข้าร่วมการแข่งขัน
- การศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่านักดนตรีคลาสสิกที่มีความเชี่ยวชาญใช้เวลาฝึกฝนเฉลี่ย 10,000 ชั่วโมงก่อนเริ่มอาชีพ
- การศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ พบว่านักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลใช้เวลาฝึกฝนเฉลี่ย 10,000 ชั่วโมงก่อนเริ่มอาชีพ
อย่างไรก็ตาม สถิติเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น ปัจจัยต่างๆ เช่น พรสวรรค์ สภาพแวดล้อม และการสนับสนุนจากผู้อื่น อาจส่งผลต่อจำนวนชั่วโมงการฝึกฝนที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ การศึกษาส่วนใหญ่ที่สนับสนุนกฎ 10,000 ชั่วโมง มุ่งเน้นไปที่อาชีพที่ต้องใช้ทักษะเชิงปฏิบัติหรือทักษะทางเทคนิค เช่น นักกีฬา นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎ 10,000 ชั่วโมงในอาชีพที่ต้องใช้ทักษะทางความคิดหรือทักษะทางสังคม
ดังนั้น สถิติเกี่ยวกับกฎ 10,000 ชั่วโมงจึงควรใช้เป็นแนวทางเท่านั้น เราไม่ควรยึดติดกับตัวเลขนี้มากเกินไป หากต้องการประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน เราควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ และทุ่มเทเวลาและแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่
เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญงานเขียน
นามปากกา : นกเหยี่ยว
ต้องการมืออาชีพช่วยเขียนบทความ?
บริการเขียนบทความ
คุณภาพสูง เน้นการปรับแต่งให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและบริการของคุณ!
เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วย
บทความ SEO
ที่ช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาของเว็บไซต์ของคุณ
ติดต่อตอนนี้เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ