ใช้หน้ากากอนามัยให้ถูกแบบ ถูกวิธี เพื่อชีวิตปลอดภัยจาก PM 2.5 และโรคต่าง ๆ

หน้ากากอนามัย ไอเทมสำคัญในยุคนี้ ที่เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักและไม่สนใจหยิบมาใช้แล้ว ณ วินาทีนี้ เพราะการใส่หน้ากากเป็นเสมือนการสร้างเกราะป้องกันภัยที่ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นธรรมดา ฝุ่นขนาดเล็กที่เรียกว่า PM 2.5 หรือจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ รวมถึงโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กำลังมาแรงและแพร่ระบาดทั่วโลกก็สามารถป้องกันได้ด้วยการใส่หน้ากาก จึงทำให้หลายคนเริ่มตื่นตัวและหันมาใส่หน้ากากกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

ดังนั้นการรู้จักหน้ากากอนามัยในแบบต่าง ๆ ให้ครบถ้วน รู้วิธีการใช้งานและข้อจำกัดต่าง ๆ ของหน้ากากก็จะทำให้เราเลือกชนิดของหน้ากากและใส่หน้ากากได้ถูกวิธี คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และใช้หน้ากากให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ชนิดของหน้ากากอนามัยแบบต่าง ๆ

ถ้าเคยสังเกตจะพบว่าหน้ากากอนามัยนั้นมีหลายแบบ หลายสี และหลายรูปร่าง ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วหน้ากากจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

1.หน้ากากผ้า

มักทำจากผ้าฝ้าย ใช้ใส่เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดใหญ่ น้ำมูก น้ำลาย จากการไอและจาม แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคหรือฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กได้ แต่ข้อดีของหน้ากากผ้าคือสามารถซักทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้

2.หน้ากากใยสังเคราะห์

ทำมาจากใยสังเคราะห์ประเภทโพรพิลีน มีทั้งหมด 3 ชั้น ตรงกลางเป็นฟิวเตอร์ที่สามารถกรองเชื้อโรคและฝุ่นละอองขนาดกลางได้ มักใช้ในทางการแพทย์และในห้องผ่าตัด เพราะมีคุณสมบัติในการกรองเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และป้องกันของเหลวซึมผ่านได้ในเวลาเดียวกัน

3.หน้ากาก N 95

ทำมาจากฟิวเตอร์เฉพาะที่สามารถป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับหน้ากากสองประเภทแรก เหมาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในบริเวณที่มี ฝุ่น PM 2.5 สูง สามารถใช้งานได้นานถึง 3 สัปดาห์ แต่ก็ควรเปลี่ยนทุกวันเพื่อความสะอาด

ทั้งนี้หน้ากาก N 95 ยังแบ่งได้เป็นอีก 2 แบบย่อย คือแบบมีวาว์ลและแบบไม่มีวาว์ล โดยวาว์ลนี้จะทำให้เราหายใจออกได้สะดวกขึ้นเพราะลมจากการหายใจออกจะสามารถออกทางวาว์ลได้ ในขณะที่เมื่อหายใจเข้าลมจะไม่สามารถเข้าทางวาว์ลได้ จึงทำให้ไม่มีอากาศรั่วไหลเข้ามาในหน้ากากโดยไม่ได้ผ่านการกรอง

วิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องสำหรับหน้ากากแต่ละชนิด

1.หน้ากากผ้า จับที่หูของหน้ากากแล้วสวมหน้ากาก ปรับรูปทรงให้เข้ากับใบหน้า

2.หน้ากากใยสังเคราะห์ หันด้านที่มีสี เช่น สีเขียวหรือสีฟ้าออกด้านนอก และนำด้านที่มีขอบลวดขึ้นด้านบนให้ชิดกับจมูก จับที่หูของหน้ากาก สวมให้เข้ากับใบหน้า กดแกนลวดให้แนบกับจมูกและจัดแต่งหน้ากากให้ครอบบริเวณคาง

3.หน้ากาก N 95 ครอบหน้ากากลงบนจมูก สวมที่คาดด้านบนผ่านศีรษะและสวมสายคาดสำหรับด้านล่างผ่านทางศีรษะอีกครั้ง หรือคาดกับใบหู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของหน้ากาก โดยจำเป็นต้องให้หน้ากากแนบกับทุกส่วนของใบหน้า

ข้อควรระวังในการใช้หน้ากากแต่ละประเภท

1.จำเป็นต้องเลือกชนิดของหน้ากากให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น หากต้องการทำความสะอาดบ้านธรรมดา ควรเลือกเป็นแค่หน้ากากผ้าธรรมดาก็เพียงพอ แต่หากเราจำเป็นต้องออกจากบ้านในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงก็ควรเลือกหน้ากากแบบ N95 ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ได้ดี

2.ไม่ควรใส่หน้ากากแบบ N95 ตลอดเวลาต่อเนื่องกันนานเกิน 2 ชั่วโมง เพราะมีโอกาสทำให้หายใจไม่ออกและส่งผลเสียต่อร่างกายได้

3.ไม่ควรใส่หน้ากากออกกำลังกาย เพราะสามารถทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนได้

4.ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืดควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้หน้ากาก N95 ในชีวิตประจำวัน

5.หลังใช้งานหน้ากากเสร็จ ควรจับที่หูแล้วถอดออกและไม่ควรสัมผัสบริเวณหน้ากากเพราะอาจมีเชื้อโรคหรือฝุ่นอยู่ปริมาณสูง

สิ่งที่บอกว่าเราใส่หน้ากากอนามัยถูกวิธี

1.ไม่มีลมหรืออากาศจากภายนอกไหลเข้ามาภายในหน้ากากโดยไม่ได้ผ่านการกรอง

2.หน้ากากจะต้องยุบตัวเวลาเราหายใจเข้าและพองตัวเวลาเราหายใจออก

3.หน้ากากแนบกับสันจมูก ปิดจมูก ปากและคางทั้งหมด

ทำไมเราจึงควรมีหน้ากากอนามัยติดกระเป๋าไว้

เนื่องด้วยสภาพอากาศในปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอน อย่างฝุ่น PM 2.5 ที่กลับมาสร้างปัญหากวนใจได้ตลอดปี ดังนั้นหากเราพกหน้ากากไว้หรือใส่หน้ากากออกจากบ้าน เราจะมั่นใจได้ว่าฝุ่นพิษเหล่านั้นจะไม่สามารถทำอะไรเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ (กุมภาพันธ์ 2019) ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และลุกลามเป็นวงกว้างมาถึงประเทศไทย หากเราใส่หน้ากากป้องกันไว้ก็ย่อมดีกว่าไปวัดดวงเอาดาบหน้า หรือรอให้ป่วยแล้วมานั่งเสียดายทีหลัง เพราะสิ่งเหล่านี้เราสามารถป้องกันได้

ในกรณีที่เราไม่สามารถหาซื้อหน้ากากแบบ N95 เพื่อป้องกัน PM 2.5 ได้ การใช้หน้ากากแบบใยสังเคราะห์ 2-3 ชั้น หรือการสอดทิชชู่ไว้ตรงกลางเพื่อป้องกันก็ยังดีกว่าการไม่ใส่หน้ากาก แล้วยอมไปสูดดมฝุ่นพิษกลางแจ้ง

สรุป

ทั้งนี้การเลือกชนิดของหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่เราต้องการและใส่หน้ากากอย่างถูกวิธี จะยิ่งช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากหน้ากากได้สูงสุด และยังสามารถแนะนำคนรอบตัวรวมถึงคนที่เรารักให้ปลอดภัยจากฝุ่นและโรคร้ายด้วยการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมพกหน้ากากติดกระเป๋าไว้เสมอ อย่างน้อยเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากใยสังเคราะห์แบบธรรมดาก็ยังดี

ภาพโดย: https://pixabay.com/

นามปากกา: นกเหยี่ยว (Falcon)

ความรู้คือปีกที่พาเราโบยบิน ความคิดคือท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด จบการศึกษาปริญญาโทด้านวรรณคดีจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รักการเขียนและการศึกษาข้อมูลใหม่ ๆ มีประสบการณ์การเขียนบทความกว่า 8 ปี เชี่ยวชาญในการเขียนบทความ SEO และการใช้สื่อสังคมออนไลน์ แรงบันดาลใจในการเขียนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในสังคมและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

LINE OA: @writerid