อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า หันมาสร้างรายได้จากรับเขียนบทความกันดีกว่า

เคยมีโมเม้นต์ที่ไม่รู้จะทำอะไร ว่างก็เปิดดูฟีดในเฟสบุ๊ก ดู YouTube บ้าง เช็ค IG ดูทวิตเตอร์ แม้ไม่มีข้อความแจ้งเตือนก็ดูอยู่เป็นชั่วโมง มาเปลี่ยนเวลาว่างให้เป็นรายได้ด้วยการรับเขียนบทความดีกว่า เพราะมีตำแหน่งว่างสำหรับทุกคน ปล่อยเวลาให้ผ่านไปก็เปล่าประโยชน์ เขียนให้คนอื่นเค้าได้อ่านสำนวนคุณบ้าง แค่รับเขียนบทความ เวลาว่างก็กลายเป็นรายได้เข้ากระเป๋าได้ง่าย ๆ

ทีนี้มาดูกันว่าหากสนใจการเขียนแล้ว จะเริ่มต้นรับเขียนบทความอย่างไรกันได้บ้าง

• หาเว็บไซต์ที่รับสมัครนักเขียน ปัจจุบันมีเว็บไซต์คุณภาพที่รับสมัครนักเขียนอยู่หลายสำนัก ซึ่งแต่ละสำนักก็หาง่ายมากแค่ถาม Google ขั้นต่อไปก็ไม่ยาก เข้าไปสมัครสมาชิกและแจ้งความจำนงในการสมัครเป็นนักเขียนรับเขียนบทความ ส่วนใหญ่ต้องส่งตัวอย่างงานเขียนให้ดูก่อน หรือบางเว็บก็ติดต่อมาทดสอบทักษะ ถ้าผ่านก็รับงานได้เลย ง่ายกว่าการสัมภาษณ์งานตั้งเยอะ
• เขียนบทความสำรองไว้ ไม่ได้หมายถึงเขียนสำรองไว้เป็นโหล ๆ แต่ก็เลือกในเรื่องที่ถนัดที่สุด เอาไว้เป็นโพรไฟล์ของตัวเอง เวลาสมัครเขียนบทความจำเป็นต้องมี reference ไว้บ้าง เป็นตัวหนึ่งที่บ่งบอกความสามารถหรือประสบการณ์ที่เรามี ก็คล้าย ๆ เวลาสมัครงานแล้วต้องส่ง Resume อะไรทำนองนั้น
• เรียนรู้วิธีการเขียน SEO จำเป็นมากสำหรับรับเขียนบทความ SEO หรือ Search Engine Optimization คือส่วนหนึ่งของการตลาดอิเล็กทรอนิกส์เพราะทำให้บทความติดอันดับต้น ๆ ของการค้นหา ดังนั้นหากเขียนบทความ SEO ที่มีคุณภาพก็ยิ่งได้งานง่าย และเป็นที่ถูกใจของลูกค้า ศึกษาไว้ก็ไม่เสียหลาย

จากการกล้าเริ่มสู่งานอันทรงคุณค่า รับเขียนบทความ ใช้เวลาว่างสร้างรายได้

• รับเขียนในสิ่งที่ตัวเองถนัดและมีความรู้ จริง ๆ แล้วทุกคนก็ไม่ได้รู้อะไรไปเสียทุกอย่าง รับเขียนบทความต้องคิดและต้องหาข้อมูล หากเป็นเรื่องที่ถนัดอยู่แล้วก็ต้องเขียนให้ตรงความต้องการของลูกค้า
• เวลาว่างหลังเลิกงาน เครียดจากงานประจำแบ่งถ่ายมาให้งานอื่นบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เป็นอีกวิธีหนึ่งทางจิตวิทยาในการเบี่ยงเบนความเครียด การเขียนบางครั้งก็ทำให้คุณลืมเวลาไปเลย เพราะบางทีการเคาะคีย์บอร์ดก็มันจนหยุดไม่อยู่ แค่เจียดเวลาว่างสักนิด ชีวิตก็มีคุณค่าเพิ่มขึ้น
• รายได้ที่ต่อยอดได้ บางคนอาจมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากรับเขียนบทความ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าประสบการณ์น้อยทำไม่ได้ เพียงแต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ทั้งฝึกและฝน
• วางแผนการทำงานได้ด้วยตัวเอง งานเขียนแต่ละเรื่องมีกำหนดระยะเวลา กำหนดจำนวนคำ ส่วนใหญ่ก็ 500 คำ อาจจะมีมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของงานและลูกค้า ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักในการเขียนบทความหนึ่ง ๆ ดังนั้นนักเขียนสามารถวางแผนการทำงานได้ด้วยตนเอง และปรับให้เข้ากับตารางชีวิตประจำวัน

สรุป

เวลาว่างของหลายคนคือการใช้จ่าย แต่ถ้าเปลี่ยนเวลาว่างเป็นการหารายได้เพิ่ม ก็น่าสนอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าใครก็รับเขียนบทความได้ หากทำแล้วไม่ชอบหรือไม่ใช่ก็ไม่มีใครว่า แค่ลองทำดูก็ไม่เสียหายอะไร อยากได้มากก็เขียนมาก อยากได้น้อยก็เขียนน้อย ไม่แน่คุณอาจเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในเสียงเคาะคีย์บอร์ดของตัวเองจนเลิกรับเขียนบทความไม่ได้ก็เป็นได้ ใครจะรู้