ชาวต่างชาติต้องรู้ก่อนซื้อคอนโดในไทย?

ฝันอยากมีคอนโดในไทย แต่ไม่รู้เริ่มต้นจากตรงไหน? บทความนี้รวบรวมข้อมูลสำคัญสำหรับชาวต่างชาติที่ใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของคอนโดในดินแดนแห่งรอยยิ้ม เตรียมตัวให้พร้อมก่อนตัดสินใจซื้อ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมาย วัฒนธรรม หรือข้อจำกัดต่าง ๆ

ต่างชาติซื้อคอนโดในประเทศไทย กฎระเบียบ ขั้นตอนที่ต้องรู้

กฎหมายควบคุมการถือครองกรรมสิทธิ์

ชาวต่างชาติสามารถซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยได้ แต่มีข้อจำกัดตามกฎหมาย ดังนี้

• ชาวต่างชาติรวมกันต้องไม่เกิน 49% ของพื้นที่รวมทั้งหมดของโครงการ
• แต่ละอาคารชุดต้องมีจำนวนห้องชุดที่ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ไม่เกิน 49% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมด
• กรณีโครงการมีจำนวนห้องชุดทั้งหมดไม่เกิน 50 ห้อง ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 24.5% ของพื้นที่รวมทั้งหมด

รูปแบบการถือครองกรรมสิทธิ์

1. สิทธิ์การเช่าระยะยาว (Leasehold)

• เช่าที่ดินและอาคารชุดเป็นระยะเวลา 30 ปี
• ต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 30 ปี
• เหมาะกับการอยู่อาศัยเอง
• ข้อดี:
  • ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า Freehold
  • เหมาะกับการอยู่อาศัยระยะยาว
• ข้อเสีย:
  • ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน
  • สิทธิ์การเช่ามีวันหมดอายุ
  • อาจมีค่าธรรมเนียมการต่ออายุสัญญา

2. สิทธิ์การถือครองกรรมสิทธิ์แบบ Freehold

• • ถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดและที่ดิน
  • ไม่มีวันหมดอายุ
  • เหมาะกับการลงทุน
  • ข้อดี:
    • เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคารชุด
    • สิทธิ์ไม่มีวันหมดอายุ
    • เหมาะกับการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อ
  • ข้อเสีย:
    • ใช้เงินลงทุนมากกว่า Leasehold
    • ชาวต่างชาติมีข้อจำกัดในการถือครองกรรมสิทธิ์

การขออนุญาต

• ชาวต่างชาติต้องขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยก่อนซื้อคอนโดมิเนียม
• เอกสารประกอบการขออนุญาต: หนังสือเดินทาง ใบรับรองการทำงาน ใบแสดงสถานะทางการเงิน หลักฐานการโอนเงินเข้าประเทศไทย เอกสารอื่น ๆ ตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด

กรณีพิเศษ

• ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้เกิน 49% ของพื้นที่รวมทั้งหมดของโครงการ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย กรณีดังต่อไปนี้:
  • ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 40 ล้านบาทขึ้นไป
  • ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัย มูลค่าตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
  • แต่งงานกับคนไทย

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

• ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์: 2% ของราคาประเมิน
• ภาษีธุรกิจเฉพาะ: 3.3% ของราคาประเมิน
• ค่าธรรมเนียมอื่นๆ: ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมนิติบุคคล

---

การซื้อคอนโดในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติ แต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกัน

ปัจจัยหลัก

• กฎหมาย: แต่ละประเทศมีกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติที่แตกต่างกัน
• ข้อตกลงระหว่างประเทศ: ประเทศไทยมีข้อตกลงทวิภาคีกับบางประเทศ

ตัวอย่าง:

• ประเทศอาเซียน:
  • ชาวอาเซียนสามารถซื้อคอนโดมิเนียมในไทยได้
  • แต่มีข้อจำกัดบางประการ
  • เช่น
    • ต้องถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 1 ปี
    • ต้องแจ้งธนาคารแห่งประเทศไทย
• ประเทศจีน:
  • ชาวจีนสามารถซื้อคอนโดมิเนียมในไทยได้
  • แต่มีข้อจำกัดบางประการ
  • เช่น
    • ต้องขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย
    • ต้องโอนเงินผ่านธนาคารในไทย

คำแนะนำ:

• ศึกษาข้อมูลกฎหมายไทยเกี่ยวกับการถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ
• ตรวจสอบข้อตกลงทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับประเทศของคุณ
• ปรึกษาทนายความเพื่อรับคำแนะนำทางกฎหมายที่เฉพาะเจาะจงสำหรับกรณีของคุณ

---

ในปี 2565 ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมในไทยมากน้อยแค่ไหน

ชาวต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมในไทย ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ อย่างกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ ตัวเลขการซื้อคอนโดมิเนียมโดยชาวต่างชาติในปี 2565 นั้น อยู่ที่ประมาณ 28,000 ยูนิต คิดเป็น 10% ของยอดขายคอนโดมิเนียมทั้งหมดในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมโดยชาวต่างชาติมีจำกัดตามกฎหมายไทย โดยอาคารชุดหนึ่ง ๆ ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่รวมทั้งหมด

ปัจจัย ที่ทำให้ชาวต่างชาติสนใจซื้อคอนโดมิเนียมในไทย มีหลายประการ เช่น

• ราคาอสังหาริมทรัพย์ ในไทยยังถือว่า ถูก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน
• เศรษฐกิจไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
• การท่องเที่ยวไทย เฟื่องฟู ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
• โครงสร้างพื้นฐาน ของไทยพัฒนาอย่างรวดเร็ว
• สภาพอากาศ อบอุ่น เหมาะแก่การอยู่อาศัย

ข้อจำกัด สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในไทย มีดังนี้

• ต้องมีเงินทุน เพียงพอ
• ต้องผ่าน ขั้นตอน ทางกฎหมายที่ซับซ้อน

---

ประเทศที่ซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยมากที่สุด

1. อันดับประเทศที่ซื้อคอนโดมิเนียมในไทย

• ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานว่าในปี 2565 อันดับประเทศที่ซื้อคอนโดมิเนียมในไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. จีน (3,562 ยูนิต)
2. รัสเซีย (420 ยูนิต)
3. สหรัฐอเมริกา (375 ยูนิต)
4. ฝรั่งเศส (228 ยูนิต)
5. เมียนมา (188 ยูนิต)

2. สาเหตุที่ชาวจีนซื้อคอนโดมิเนียมในไทย

• สาเหตุที่ชาวจีนซื้อคอนโดมิเนียมในไทยมากที่สุด ยังมีปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น:
  • การขยายตัวของธุรกิจจีนในไทย
  • การเติบโตของการท่องเที่ยวไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน
  • นโยบายOne Belt One Road ของรัฐบาลจีน

3. ประเทศอื่นๆ

• ประเทศอื่นๆ ที่ซื้อคอนโดมิเนียมในไทยรองลงมา ส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชีย เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้

---

เอกสารประกอบการขออนุญาต:

1. เอกสารประกอบการขออนุญาต

• เอกสารประกอบการขออนุญาตซื้อคอนโดมิเนียมสำหรับบุคคลธรรมดา ประกอบด้วย:

  • หนังสือเดินทาง (Passport)
  • ใบรับรองการทำงาน (Work Permit)
  • ใบแสดงสถานะทางการเงิน (Financial Statement)
  • หลักฐานการโอนเงินเข้าประเทศไทย (Proof of Remittance)
  • รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน

• เอกสารประกอบการขออนุญาตซื้อคอนโดมิเนียมสำหรับนิติบุคคล ประกอบด้วย:

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (Certificate of Incorporation)
  • บทบัญญัติของนิติบุคคล (Articles of Association)
  • รายชื่อกรรมการ (List of Directors)
  • มติของคณะกรรมการให้อนุญาตซื้อคอนโดมิเนียม (Board Resolution)
  • หนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้แทนนิติบุคคล
  • ใบแสดงสถานะทางการเงิน (Financial Statement)
  • หลักฐานการโอนเงินเข้าประเทศไทย (Proof of Remittance)

2. หมายเหตุ

• เอกสารทั้งหมดต้องแปลเป็นภาษาไทย และรับรอง โดยสถานทูตไทยในต่างประเทศ
• กรุณาตรวจสอบกับสำนักงานที่ดิน ที่ท่านจะยื่นคำร้องเพื่อขอข้อมูลล่าสุด

---

ตัวอย่างชาวอเมริกัน ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในกรุงเทพแบบทั่วไป

1. ขั้นตอนการขออนุญาต

• นายเอเดน (Aiden) ต้องขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย ก่อนซื้อคอนโดมิเนียม
• เอกสารประกอบการขออนุญาต มีดังนี้:
  • ใบคำร้องขออนุญาต
  • สำเนาหนังสือเดินทาง
  • ใบสำคัญถิ่นที่อยู่
  • หลักฐานแสดงสถานะทางการเงิน
  • หลักฐานแสดงการโอนเงินเข้าประเทศไทย
  • รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
• นายเอเดน (Aiden) ต้องยื่นขออนุญาตที่สำนักงานที่ดิน พร้อมชำระค่าธรรมเนียม 2,000 บาท และรอผลพิจารณา

2. การถือครองกรรมสิทธิ์

• กรณีนายเอเดน (Aiden) ซื้อคอนโดมิเนียมมูลค่า 5 ล้านบาท
  • นายเอเดน (Aiden) สามารถ ถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมแบบเช่าระยะยาว (Leasehold) สูงสุด 30 ปี
• กรณีนายเอเดน (Aiden) ลงทุน ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 40 ล้านบาทขึ้นไป หรือ ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัย มูลค่าตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
  • นายเอเดน (Aiden) สามารถ ถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมแบบกรรมสิทธิ์แบบ Freehold

3. หมายเหตุ

• ข้อมูลนี้อ้างอิงจากกฎหมาย และข้อบังคับ ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567

---

การปรึกษาทนายความสำหรับชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดในประเทศไทย

การปรึกษาทนายความ เป็นสิ่งที่ ควรทำ สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อคอนโดในประเทศไทย

เหตุผลหลัก มีดังนี้:

1. ความซับซ้อนของกฎหมาย: กฎหมายไทยเกี่ยวกับการถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติมีความซับซ้อน ทนายความสามารถช่วยอธิบายกฎหมาย ข้อจำกัด และขั้นตอนต่าง ๆ และข้อกฎหมายบางข้อมีการเปลี่ยนแปลง

2. เอกสารสัญญา: สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นเอกสารที่มีความสำคัญ ทนายความสามารถช่วยตรวจสอบสัญญา อธิบายข้อความในสัญญา และแนะนำให้แก้ไขสัญญา

3. การคุ้มครองสิทธิ์: ทนายความสามารถช่วยปกป้องสิทธิ์ของคุณ

4. ความมั่นใจ: การปรึกษาทนายความช่วยให้คุณมั่นใจว่า

• การซื้อขายคอนโดเป็นไปตามกฎหมาย
• สิทธิ์ของคุณได้รับการคุ้มครอง

5. บริการอื่นๆ: ทนายความสามารถช่วยคุณในเรื่องอื่นๆ

• การขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย
• การโอนกรรมสิทธิ์
• การขอสินเชื่อ

ค่าธรรมเนียมทนายความ:

ค่าธรรมเนียมทนายความจะขึ้นอยู่กับ

• ประเภทของคอนโด
• ราคาคอนโด
• ขอบเขตงานของทนายความ

การซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติมากขึ้น สาเหตุหลักๆ มาจากเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หลายคนซื้อคอนโดเพื่อพักผ่อนหรือปล่อยเช่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยยังถือว่าถูก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค

การซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยมีทั้งโอกาสและข้อจำกัด ชาวต่างชาติควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ปรึกษาทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญ เลือกซื้อคอนโดมิเนียมจากโครงการที่มีชื่อเสียง เพื่อความปลอดภัยและผลตอบแทนที่ดี

แหล่งข้อมูล:

• กรมที่ดิน: https://dol.go.th/
• กระทรวงการต่างประเทศ: https://www.mfa.go.th/th/