เวลาน้อยก็ฟิตได้! 4 วิธีการออกกำลังกายของคนทำงานที่ได้ผลจริง

“กีฬาเป็นยาวิเศษ” คำกล่าวนี้เราเคยได้ยินมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ และยังคงเป็นความจริงยิ่งขึ้นในยุคดิจิตอลที่ชีวิตไม่เคยห่างหน้าจอ ร่างกายของมนุษย์เราไม่ว่าจะส่วนไหนก็ตาม ยิ่งใช้งานบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทวีความแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น หากเรามีสุขภาพกายที่ดี สุขภาพจิตแจ่มใส จะงานหนักแค่ไหนก็ทานทนไหว แต่หากร่างกายเราไม่พร้อม ยิ่งทำงานก็จะยิ่งเกิดความล้า ความเครียดสะสม การออกกำลังกายของคนทำงานจึงมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตไม่แพ้วัยอื่นเลย รู้อย่างนี้แล้วหากคุณอยากได้ไอเดียสำหรับการฟิตหุ่นและเสริมสร้างความแข็งแรงสำหรับคนไม่มีเวลา เรายินดีอย่างยิ่งที่จะเป็นไกด์ให้ฟรี ๆ

การออกกำลังกายของคนทำงานที่ใช้เวลาไม่เกิน 60 นาทีต่อวัน

1.โยคะ (Yoga)

ส่งตรงจากดินแดนมหัศจรรย์อย่างอินเดีย “โยคะ” หนึ่งในสุดยอดการออกกำลังกายของคนทำงานที่ฮอตฮิตอย่างมาก โยคะสัมพันธ์โดยตรงกับการบริหารลมหายใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี การออกกำลังกายชนิดนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ปรับสมดุลของร่างกาย บำบัดความเครียด จึงทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น เหมาะสำหรับคนในหลายช่วงอายุ โดยเฉพาะวัยทำงาน เชื่อหรือไม่ว่าเพียงหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็มีประโยชน์มากแล้ว หรือจะทำแค่ช่วงสั้น ๆ 20 นาที สองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ก็ไม่ผิด คุณจะเห็นผลลัพธ์ว่าชีวิตคุณค่อย ๆ เปลี่ยนไป แต่จะดีกว่าหากคุณมีครูหรือเทรนเนอร์ เพราะบางท่าอาจเป็นอันตรายได้หากทำไม่ถูกวิธี

2.เข้าฟิตเนส เล่นเวท (Weight Training)

หากคุณอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่และกำลังตามหาวิธีออกกำลังกายสำหรับคนไม่มีเวลา การหาฟิตเนสประจำสักแห่งจะเป็นสุดยอดรางวัลชีวิตที่คุณซื้อให้กับตัวเองได้ การเข้ายิมและเล่นเวทมีประโยชน์อย่างมากต่อหลายแง่มุมของการใช้ชีวิต ทั้งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และคุณจะค่อย ๆ พบว่าตัวเองจะเริ่มมีวินัยจากการบังคับให้ตัวเองไปยิมอย่างสม่ำเสมอ จะเริ่มพบว่าอาหารบางอย่างควรหลีกเลี่ยงและเป็นการทำร้ายร่างกาย และจะเริ่มพบว่าคุณสามารถเป็นคนที่ดีขึ้นได้ทั้งภายนอกและภายใน เมื่อคุณเล่นไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง คุณจะพบว่าร่างกายของคุณดีขึ้นตามลำดับ สมส่วนน่ามอง มีกล้ามเนื้อและรูปร่างที่น่าหลงใหล เวลาที่ใช้ควรจะเป็นสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ และควรมีเทรนเนอร์หากคุณจริงจัง แต่เชื่อเถอะว่าแค่คุณเริ่มต้นออกกำลังกาย ประโยชน์ก็เกิดกับตัวคุณแล้ว

การออกกำลังกายของคนทำงานสำหรับสายกิจกรรมการแจ้ง

3.ปั่นจักรยาน (Cycling)

การปั่นจักรยานเป็นกีฬายอดนิยมในไทยที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะไม่เกิดแรงกระทบที่เข่าเหมือนการวิ่งจึงทำให้ข้อไม่สึกหรือเสื่อมจากแรงกระแทก และยังจัดเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาแบบแอโรบิค จึงช่วยให้ระบบร่างกายหมุนเวียนดีขึ้น เผาผลาญแคลอรี่ได้เป็นอย่างดี ประโยชน์ของการปั่นจักรยานมีมากมาย ตั้งแต่ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ช่วยให้สมองแล่น ปลอดโปร่ง ลดระดับความเครียดได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มีกล้ามท้อง กล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง การปั่นจักรยานอาจต้องใช้งบประมาณในการซื้ออุปกรณ์อยู่สักหน่อย แต่ถ้าหากลองเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปเพื่อความสุขและสุขภาพของตัวเอง ก็จัดว่าคุ้มอยู่มาก การไม่ออกกำลังกายอาจทำให้คุณต้องเจ็บป่วยจนเข้าโรงพยาบาล และต้องจ่ายมากกว่าจักรยานหนึ่งคันแน่ ๆ

4.เดิน วิ่ง (Walking & Jogging)

หากคุณคิดว่าวิธีออกกำลังกายสำหรับคนไม่มีเวลาอย่างอื่นยุ่งยากเกินไป ทำไมไม่ลองหันมาใช้วิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุดอย่างการเดินหรือการวิ่งดูล่ะ เพียงแค่มีรองเท้าผ้าใบหนึ่งคู่ก็เพียงพอ การเดินหรือการวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีมาก หนึ่งในวิธีแนะนำเพื่อลดน้ำหนักของคนทำงานที่ไม่มีเวลาก็คือการเดินช้า ๆ ต่อเนื่องกันสักชั่วโมง ทำบ่อย ๆ รับรองว่าจะเห็นผลอย่างชัดเจน การเดินยังมีข้อดีอีกอย่าง ก็คือคุณสามารถเลือกสถานที่ได้ตามใจชอบ นี่จะทำให้การออกกำลังกายสนุกและไม่น่าเบื่อ แถมยังช่วยให้คุณมีโอกาสพบกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่ชอบออกกำลังกายเหมือนกันด้วยนะ คู่รักสวย ๆ หล่อ ๆ หลายคู่ก็เจอกันบนข้างทางนี่แหละ

ทั้ง 4 ทางเลือกนี้เป็นเพียงตัวอย่างวิธีการออกกำลังกายสำหรับคนทำงานเท่านั้น อันที่จริงแล้วการออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพ ไม่ว่าจะหนทางไหนก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นกีฬายอดนิยมในไทยที่คนส่วนใหญ่ชอบก็ได้ เพราะหากร่างกายดี จิตใจก็จะดีตามไปด้วย และเมื่อทั้งกายและใจดีแล้ว จะทำงานหรือจะใช้ชีวิตให้สนุกสุดเหวี่ยงก็ทำได้ทั้งนั้น คงไม่สนุกแน่หากมีเงินแต่กลับไม่มีร่างกายที่พร้อมท่องเที่ยว มีเงินก็ต้องรอวันจ่ายให้หมอหมด

Credit : https://pixabay.com/