1 min read
วิธีคำนวณสินเชื่อบ้านแบบธนาคาร เช็กก่อนยื่น เพื่อให้ได้รับอนุมัติชัวร์
หลังจากที่ไปสอดส่องมองหาบ้านในฝันตามทำเลต่าง ๆ จนได้มาซึ่งราคาของบ้านที่แน่ชัดกันมาแล้ว เชื่อว่าปัญหาต่อมาที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องคิดหนักก็คือ “จะกู้สินเชื่อได้ตามต้องการหรือเปล่า” การจะกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรู้วิธีในการคำนวณสินเชื่อบ้านแบบธนาคาร หรือมีวิธีการคำนวณคร่าว ๆ เพื่อจะได้ประเมินความน่าจะเป็นก่อนที่จะทำการขอยื่นกู้ หากคำนวณเบื้องต้นได้แล้ว ก็จะทำให้เราพอเห็นภาพว่าโอกาสที่เราจะกู้ผ่านมีมากน้อยแค่ไหน และเราน่าจะได้วงเงินในการกู้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ครั้งนี้จึงจะมาแนะนำวิธีคำนวณสินเชื่อบ้านในแบบที่มาตรฐานส่วนใหญ่ใช้ให้ทุกคนได้ทราบกัน
ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องเตรียมก่อนคำนวณสินเชื่อบ้าน
ก่อนที่ทุกคนจะไปเริ่มต้นเรียนรู้วิธีการคำนวณสินเชื่อบ้านแบบที่ธนาคารใช้ประเมิน เราก็ต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าทางธนาคารใช้หลักเกณฑ์อะไรในการประเมินเพื่ออนุมัติสินเชื่อให้เราบ้าง ธนาคารแต่ละแห่งอาจมีเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินเพื่ออนุมัติสินเชื่อแตกต่างกันไปบ้างในบางกรณี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพื้นฐานก็จะเหมือนกัน ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมข้อมูลที่เป็นเกณฑ์พื้นฐานสำหรับการคำนวณก่อน การคำนวณจึงจะได้ไม่ผิดพลาด โดยข้อมูลพื้นฐานที่ควรจะเตรียมก็มีดังนี้
1.ลักษณะอาชีพและความมั่นคงของรายได้
อาชีพและรายได้ของผู้กู้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญอย่างมากในการพิจารณาการให้สินเชื่อของทางธนาคาร โดยปกติส่วนใหญ่แล้วธนาคารมักจะมีเกณฑ์ประเมินการให้วงเงินกู้ตามลักษณะของอาชีพและรายได้ ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
- ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานบริษัทเอกชนที่มีรายได้ประจำมั่นคง (ต้องปฏิบัติงานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี และบริษัทต้องมีพนักงานไม่ต่ำกว่า 10 คน) วงเงินกู้ของธนาคารจะให้อยู่ที่ประมาณ 25 – 30 เท่าของรายได้ และอาจขึ้นไปสูงถึง 40 เท่าของรายได้แล้วแต่กรณี
- อาชีพอิสระ ที่ประกอบอาชีพตรงตามคุณวุฒิหรือมีการทำงานที่อยู่ในระดับมั่นคง เชื่อถือได้ วงเงินกู้ของธนาคารจะให้อยู่ที่ประมาณ 20 เท่าของรายได้
- ผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ ธนาคารจะประเมินว่ามีรายได้ไม่แน่นอน วงเงินกู้ของธนาคารจะให้อยู่ที่ประมาณ 15 เท่าของรายได้เท่านั้น
2.ระยะเวลาการกู้
ระยะเวลาในการกู้ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญอีกชิ้นในการคำนวณสินเชื่อบ้าน โดยปกติระยะเวลาในการกู้นั้นธนาคารจะมีให้เลือกตั้งแต่ 5 – 30 ปี หากกู้สั้นวงเงินที่ได้ก็จะน้อยลงตามสัดส่วน ต้องดูว่าคุณต้องการเป็นหนี้ระยะสั้นหรือยาวแค่ไหน
3.อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน
โดยมากแล้วอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบ้านจะเป็นแบบคงที่ หรือไม่ก็เป็นแบบลอยตัวในช่วง 3 ปีแรก ถ้าเป็นแบบลอยตัว 3 ปีแรกก็ให้ยึดเอาค่าเฉลี่ยจาก 3 ปี
4.สัดส่วนภาระหนี้สิน
ข้อมูลส่วนนี้ถือว่าสำคัญมากในการใช้คำนวณเรื่องสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย ธนาคารจะให้ข้อมูลข้อมูลส่วนนี้เป็นเกณฑ์สำคัญอีกประการในการพิจารณา โดยธนาคารจะเรียกข้อมูลส่วนนี้ว่า Debt Service Ratio หรือ DSR เป็นข้อมูลสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ที่จะสะท้อนว่าความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของผู้กู้มีมากน้อยแค่ไหน ข้อมูล DSR ก็จะมาจาก
(ภาระหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือน/รายได้ต่อเดือน) x 100 = ผลลัพธ์เป็นเปอร์เซ็นต์ภาระหนี้
โดยสิ่งที่คุณจะต้องทราบก็คือ เกณฑ์การพิจารณาค่า DSR ของทางธนาคาร ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการกำหนดสัดส่วนค่า DSR ที่เหมาะสมไว้ที่ 40% หรือก็คือรายจ่ายการผ่อนบ้านรวมกับภาระหนี้อื่น ๆ แล้วไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ นั่นหมายความว่า เมื่อเราคำนวณค่า DSR ออกมาแล้วตัวเลขต้องไม่เกิน 40% ถ้าเกินนี้ก็จะไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้นั่นเอง
วิธีคำนวณสินเชื่อบ้านแบบธนาคารด้วยตัวเอง
เมื่อมีข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ แล้วก็ลองนำมาคำนวณดู ซึ่งคำนวณสินเชื่อบ้านแบบคร่าว ๆ ที่ธนาคารใช้ประเมินนั้นก็จะมีดังนี้
1.คำนวณหาค่า DSR
สมมุติว่า A มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน และมีภาระในการผ่อนรถ 7,000 บาท และจ่ายค่าบัตรเครดิตอีกเดือนละ 3,000 บาท คำนวณได้โดยนำภาระหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือน/รายได้ต่อเดือน x 100 ก็จะได้เป็น
((7,000+3,000)/30,000) x 100 = 33%
ค่า DSR = 33%
จะเห็นว่าผลลัพธ์ที่คำนวณได้มายังไม่ถึง 40% ก็เท่ากับว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ธนาคารสามารถอนุมัติวงเงินกู้ได้
2.คำนวณประมาณการวงเงินสินเชื่อที่สามารถกู้ได้
วิธีการคำนวณที่จะใช้ก็จะใช้สูตร ((DSR x เงินเดือน) – ภาระหนี้สินอื่น ๆ) x 150 ซึ่งการคำนวณจริงที่ให้ตัวเลขที่แม่นยำจะต้องมีโปรแกรมคำนวณเข้ามาช่วยด้วย เพราะจะมีค่าเฉลี่ยบางส่วนที่ทางธนาคารอาจนำมาใช้เป็นฐานการคำนวณเพิ่มเข้าไป แต่โดยคร่าว ๆ แล้ว จากตัวอย่างข้างต้น A มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ถ้าใช้สูตรคำนวณคร่าว จะได้ ((40% x 30,000 ) – 0) x 150 ก็จะได้วงเงินสินเชื่อประมาณการที่สามารถกู้ได้อยู่ที่ 1,800,000 บาท
นี่คือ วิธีการคำนวณสินเชื่อบ้านแบบที่ธนาคารใช้ประเมิน เป็นวิธีการคำนวณคร่าว ๆ ที่พอที่จะทำให้เราคาดการณ์ได้เบื้องต้นว่าเรามีโอกาสขอสินเชื่อได้หรือไม่ ลองนำไปปรับใช้กันดูได้เลย
Credit ภาพ : pixabay.com
ต้องการมืออาชีพช่วยเขียนบทความ?
บริการเขียนบทความ
คุณภาพสูง เน้นการปรับแต่งให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและบริการของคุณ!
เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วย
บทความ SEO
ที่ช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาของเว็บไซต์ของคุณ
ติดต่อเราตอนนี้เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ!