Spread the love

1 min read

ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ต่ออารมณ์และความสัมพันธ์

เคยสังเกตตัวเองไหม ว่าหลังจากเลื่อนดูฟีดแล้วรู้สึกหงอยหรืออิจฉาบ้าง? บางทีเราก็เพลินจนลืมเวลา พอเงยหน้าขึ้นมาอีกที เย็นแล้วแล้วก็ยังไม่ได้นัดเจอใครเลย สื่อสังคมออนไลน์ให้ทั้งความสนุก แต่ก็มีมุมที่ทำให้เราวิตก หรือตีความคนอื่นผิด ๆ ได้ง่าย บทความนี้จะเล่าให้ฟังว่า “เรา” ได้อะไรเสียอะไรจากการเสพสื่อออนไลน์บ่อย ๆ พร้อมวิธีปรับใช้อย่างชาญฉลาด


ความรู้สึกเราเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

เวลาเลื่อนดูรูปหรือเรื่องราวของเพื่อนบางคน เราอาจเผลอเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับเขา แล้วน้ำตาตกในเบา ๆ เห็นเพื่อนเที่ยวต่างประเทศ แฟนโพสต์หวานแหวว หรือคนคนนั้นดูประสบความสำเร็จจนชีวิตดูสมบูรณ์แบบ จนเราเริ่มนอยด์ว่าทำไมชีวิตตัวเองไม่ปังกว่านี้ นอกจากนี้ การเห็นข่าวร้ายหรือคอนเทนต์เครียด ๆ ซ้ำ ๆ ก็สร้างความกังวล หลายคนรายงานว่า หลังดูข่าวทางโซเชียลนาน ๆ นอนหลับไม่สนิท หงุดหงิดง่ายขึ้น ฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย (cortisol) อาจเพิ่ม ทำให้สุขภาพกายใจแย่ตามไปด้วย  แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเลวร้ายไปหมดเสียทีเดียว ถ้าเราเลือกติดตามเพจให้กำลังใจ หรือกลุ่มคนที่คอยแชร์คอนเทนต์ปลุกใจ ก็ช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้น รู้สึกว่ามีคนคอยอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าวันไหนจะเครียดแค่ไหน

ความสัมพันธ์อาจสั่นคลอนเพราะ “หน้าจอ”

ลองนึกภาพครอบครัวนัดกินข้าวด้วยกัน แต่แม่ยังเอามือถือมาไถเฟซบุ๊ก พ่อก็คุยแชทลูกค้า ส่วนเราเองก็โพสต์สตอรี่ อยู่ สุดท้ายทุกคนต่างติดมือถือ ไม่ได้พูดคุยกันตามจริงเท่าไหร่ หรือเวลาคุยงานผ่านข้อความ ส่งมาแค่ไม่กี่คำ เราอาจตีความหมายผิด คิดว่าเพื่อนร่วมงานไม่มีน้ำใจ ทั้งที่เขาอาจแค่รีบ ๆ พิมพ์ เกิดการเข้าใจผิดง่ายขึ้น จนกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็น

แต่ก็มีวิธีใช้โซเชียลให้รักษาความสัมพันธ์ เช่น นัดวิดีโอคอลคุยกันเป็นประจำ หรือแชร์ภาพกิจกรรมเล็ก ๆ ในกลุ่มครอบครัว ทำให้เราได้เห็นรอยยิ้มของกันและกัน แม้จะไม่ได้เจอหน้าจริง ๆ ก็ช่วยให้ความใกล้ชิดยังอยู่

ทำยังไงให้ใช้โซเชียลอย่างฉลาด?

  1. ตั้งเวลาหยุดพัก
    – ใช้แอปตั้งเวลา แจ้งเตือนให้พักสายตาทุก 30–60 นาที
    – พอได้พัก ลุกไปยืดเส้นยืดสาย ทำกิจกรรมสั้น ๆ
  2. กรองเนื้อหาให้ดี
    – เลือกติดตามคนหรือเพจที่คอนเทนต์ให้ข้อคิด แรงบันดาลใจ
    – ลดหรือเลิกติดตามบัญชีที่ชอบสร้างความกดดัน
  3. สื่อสารชัดเจน
    – ถ้าอ่านข้อความแล้วไม่แน่ใจ ลองโทรหรือวิดีโอคอลถามตรง ๆ
    – อย่าเพิ่งฟันธงว่าฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาไม่ดี
  4. สร้างกิจกรรมร่วมกันนอกจอ
    – นัดเพื่อนกินข้าว เล่นกีฬา หรือทำงานอดิเรกด้วยกัน
    – ใช้โซเชียลแค่ช่วยนัดหมาย แล้วมาใช้เวลาจริง ๆ ไม่ใช่แค่ในแชท

สื่อสังคมออนไลน์เป็นดาบสองคม ที่ให้ทั้งความสนุก การเชื่อมต่อ และโอกาสเรียนรู้ แต่ก็มีมุมที่ทำให้เราเครียด แอบเปรียบเทียบชีวิตคนอื่น หรือสื่อสารกันผิด ๆ จนความสัมพันธ์สั่นคลอน เมื่อเรารู้เท่าทันผลกระทบเหล่านี้ ก็จะเลือกเสพข้อมูลและใช้งานได้อย่างมีสติ เริ่มจากตั้งเวลาแจ้งเตือนให้พักสายตา กรองเนื้อหาที่ดูแล้วให้กำลังใจ เปิดใจสื่อสารตรง ๆ เมื่อเกิดความเข้าใจผิด เรียงลำดับความสำคัญให้บาลานซ์ระหว่างโลกออนไลน์กับชีวิตจริง และสร้างกิจกรรมออฟไลน์ที่ช่วยเติมความอบอุ่นให้กับคนรอบตัว เทคนิคเหล่านี้จะทำให้เราไม่ถูก “หน้าจอ” ครอบงำจนสูญเสียสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ แต่กลับใช้โซเชียลเป็นเครื่องมือเติมเต็มชีวิตให้สนุก มีคุณค่า และใกล้ชิด เมื่อไหร่ที่รู้สึกเหนื่อย ก็แค่พัก จัดลำดับความสำคัญ แล้วกลับมาใช้ต่ออย่างฉลาดและพอดี

ต้องการมืออาชีพช่วยเขียนบทความ? บริการเขียนบทความ คุณภาพสูง เน้นการปรับแต่งให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและบริการของคุณ!

เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วย บทความ SEO ที่ช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาของเว็บไซต์ของคุณ

ติดต่อตอนนี้เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ


Spread the love