หมึกบลูริง’ เพชรฆาตตัวจริงแห่งมหาสมุทร สวยงามแต่สุดอันตราย หมึกบลูริงหรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าหมึกสายวงน้ำเงิน เป็นหมึกขนาดเล็กที่เคลื่อนไหวร่างกายได้รวดเร็ว มีสีสันโดดเด่นเป็นวงสีน้ำเงินรอบตัว สามารถเรืองแสงวงน้ำเงินได้เมื่อถูกโจมตีคุกคามจากศัตรูอื่น แต่ใครจะรู้เลยว่าภายใต้รูปร่างขนาดเล็กและรูปโฉมสวยงามสดใสนี้จะซ่อนพิษร้ายรุนแรงเกินกว่าที่ใครจะสามารถจินตนาการไว้ได้อยู่ภายใน สิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายจากการถูกเจ้าหมึกจิ๋วนี้ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต ไปจนถึงความเข้าใจผิดสับสนจับมาทำอาหารจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมกันหลายครั้ง หมึกบลูริง กับ 5 เรื่องจริงเบื้องหลังพิษร้ายกาจ 1.เลี้ยงแบคทีเรียตัวจิ๋วในน้ำลายไว้สร้างพิษ อาจจะเคยได้ยินว่าพิษของหมึกบลูริงนั้นเป็นพิษที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าโดนงูเห่ากัดหลายเท่าจนสามารถปลิดชีวิตคนได้ในเวลาไม่กี่นาที แต่รู้หรือไม่ว่าพิษร้ายอันตรายเหล่านี้ถูกสร้างจากแบคทีเรียขนาดเล็กจิ๋วที่อยู่ในน้ำลายของเจ้าหมึกน้อยนี้ ซึ่งสารพิษดังกล่าวเป็นสารจำพวก Tetrodotoxin ซึ่งออกฤทธิ์ต่อระบบประสาททำให้เหยื่อไม่สามารถใช้งานกล้ามเนื้อลายได้ และมักจะเสียชีวิตจากการหายใจไม่ออก เนื่องจากกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเป็นอัมพาต 2.ผสมพันธุ์ครั้งเดียวในชีวิต เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยหมึกบลูริงตัวเมียจะมีพฤติกรรมผสมพันธุ์ครั้งเดียวเมื่อระบบสืบพันธุ์เจริญเติบโตดี และจะดูแลไข่หมึกจนกว่าจะฟักเป็นตัวอ่อนซึ่งกินเวลาประมาณ 2 สัปดาห์โดยแม่หมึกจนทุ่มเทกับการเลี้ยงดูลูกตัวเองมาก จนเมื่อตัวอ่อนเริ่มฟักตัทำให้ตัวอ่อนของหมึกมีโอกาสฟักและรอดในธรรมชาติสูง 3.พบได้ทั้งทางฝั่งอันดามันและอ่าวไทย หมึกสายวงน้ำเงินนับเป็นอีกหนึ่งสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงที่เป็นภัยต่อประชากรไทยอย่างมาก เนื่องจากสามารถพบได้ทั่วไปในทุกน่านน้ำของไทย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอันดามันหรือฝั่งอ่าวไทย ทำให้หลายครั้งมักถูกจับมาขายต่อเป็นอาหารให้รับประทานโดยไม่ทราบว่าเป็นหมึกพิษ โดยสารพิษในหมึกชนิดนี้ไม่สามารถทำลายด้วยความร้อนจากการปรุงประกอบอาหารได้ ทำให้มีผู้คนมากมายได้รับพิษของหมึกชนิดนี้จนเป็นอันตรายต่อชีวิต 4.วิธีปฐมพยาบาลกรณีพบผู้ถูกพิษของหมึกบลูริง สิ่งที่น่ากลัวของพิษจากหมึกชนิดนี้คือการทำให้ตาพร่าเลือน กล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาตจนไม่สามารถหายใจได้ และขาดอากาศในที่สุด ดังนั้นการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนน้ำส่งแพทย์ของผู้ที่ได้รับพิษ ก็คือการช่วยหายใจอย่างการเป่าปากผายปอด หรือสวนท่อช่วยหายใจช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับพิษ เพื่อให้ร่างกายและสมองยังคงได้รับออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเพียงพอ 5.สัญญาณวงเรืองแสงเตือนภัยผู้ล่าให้หนีห่าง โดยธรรมชาติหมึกบลูริงถือได้ว่าเป็นสัตว์รักสงบ แม้จะมีพิษร้ายกาจจนติดอันดับ 1 ใน 5 สัตว์มีพิษร้ายแรงระดับโลก แต่พฤติกรรมการดำรงชีวิตของหมึกบลูริงกลับเรียบง่าย โดยมักจะหากินกุ้งหรือปูตามพื้นทรายไปเรื่อย ๆ แต่หากวันไหนวันหนึ่งที่บลูริงถูกโจมตีจากผู้ล่า [...]

อาหารเพิ่มน้ำนม ตัวช่วยดี ๆ จากธรรมชาติที่ดีต่อคุณแม่ ปลอดภัยต่อลูกน้อย คุณแม่หลายคนเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ สิ่งที่นึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ แน่นอนว่า คือ การรับประทานอาหารบำรุงครรภ์ เพื่อบำรุงทารกในครรภ์ให้ได้มากที่สุด ไม่แปลกที่นานาอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และอาหารเสริมที่ใคร ๆ แนะนำว่าดี ก็ถูกสรรหามารับประทาน แต่นอกเหนือจากการบำรุงขณะตั้งครรภ์แล้ว อย่าลืมว่าคุณแม่ยังต้องเตรียมบำรุงร่างกายให้พร้อมสำหรับการให้นมลูกหลังคลอดด้วย การดูแลตัวเองของคุณแม่นั้น ต้องเริ่มตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด ซึ่งช่วงเวลาที่คุณแม่จะต้องดูแลและเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยเป็นพิเศษอยู่ในช่วงอายุครรภ์ 8 สัปดาห์ ไปจนถึงลูกอายุ 2 ขวบ เพราะเป็นช่วงที่ลูกจะมีการพัฒนาเซลล์สมองได้มากที่สุด การดูแลตัวเองและลูกในช่วงตั้งครรภ์ เช่น รับประทานอาหารเพิ่มน้ำนม ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย เป็นต้น อาหารเพิ่มน้ำนม การเตรียมพร้อมเพื่อลูกหลังคลอด ปัญหาที่คุณแม่หลายท่านต้องเผชิญหลังคลอด นั่นคือ “น้ำนมไม่เพียงพอ” ดังนั้น การรับประทานอาหารเพิ่มน้ำนมเพื่อเตรียมความพร้อมหลังคลอด จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และควรเริ่มตั้งแต่อายุครรภ์เข้าเดือนที่ 6 หรือ 7 เพื่อให้หลังคลอดมีน้ำนมให้ลูกน้อยได้กินทันที คุณแม่ควรรับประทานให้ได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ โดยให้ความสำคัญกับสารอาหารหลัก ๆ ได้แก่ โปรตีน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ทั้งกับคุณแม่ [...]

ขนสัตว์เลี้ยงทำให้ลูกเป็นภูมิแพ้ เรื่องจริงหรือแค่เข้าใจผิด การเลี้ยงสัตว์อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน แตกต่างกันที่ในปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์ได้เปลี่ยนจากการเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านหรือให้อยู่เฉพาะบริเวณบ้าน มาเป็นการเลี้ยงสัตว์ในบ้านแบบใกล้ชิดมากขึ้น จนถึงขั้นนอนบนเตียงเดียวกันในหลายครอบครัว ขัดแย้งกับการเลี้ยงเด็ก ที่เราต่างทราบกันดีว่า ควรรักษาสุขอนามัยให้ดีที่สุด ต้องป้องกันเชื้อโรคและภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยรอบตัว จนทำให้คนรักสัตว์ทั้งหลายเกิดความกังวลใจ ว่าขนสัตว์เลี้ยงแสนรักจะทำให้ลูกน้อยป่วยเป็นภูมิแพ้ได้หรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรเพื่อหาทางออกที่ลงตัว ทำความเข้าใจเบื้องต้น โรคภูมิแพ้ในเด็กคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร ภูมิแพ้ คือปฏิกิริยาภูมิไวเกินของร่างกาย เป็นการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เข้ามาในร่างกาย ซึ่งภูมิแพ้แบ่งได้เป็นหลายประเภทตามชนิดของสารก่อภูมิแพ้ โดยที่กระบวนการแพ้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายเคยได้รับสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นมาก่อน ร่างกายมีการจดจำสารก่อภูมิแพ้และสร้างสารภูมิคุ้มกันต่อต้านไว้ เมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้อีกครั้ง อาการของโรคภูมิแพ้จึงปรากฏให้เห็น โรคภูมิแพ้ในเด็กที่เกิดจากขนสัตว์แตกต่างจากภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ หรือไม่ โรคภูมิแพ้จากขนสัตว์ในเด็ก เป็นภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่มีอาการแสดงออกเช่นเดียวกับภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ คือ ทำให้มีอาการคันตา ตาแดง ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก และมีผื่นแดงตามตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่ระดับความรุนแรงของการแพ้ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากลูกน้อยมีอาการของโรคภูมิแพ้ดังกล่าวข้างต้น และยังไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง ก็จะไม่สามารถกล่าวอ้างได้ว่าอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากขนสัตว์เลี้ยง เพราะอาจเป็นภูมิแพ้จากไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ซากแมลงสาป หรืออาหารก็เป็นได้ ทำไมขนสัตว์จึงก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ แท้จริงแล้วภูมิแพ้ขนสัตว์ที่เข้าใจกันไม่ได้เกิดจากร่างกายต่อต้านขนสัตว์โดยตรง แต่เกิดจากการแพ้โปรตีนจากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ หรือปัสสาวะ [...]