5 ภาษาที่สองน่าเรียน พร้อมเหตุผลช่วยสนับสนุน สำหรับชาวมิลเลนเนียม

หากคุณต้องการจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ภาษาที่สองและที่สามเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในยุคดิจิทัลอย่างทุกวันนี้ ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ มักจะเกิดขึ้นในภาษาต่างประเทศก่อนที่จะถูกแปลมาเป็นภาษาไทย แถมยังมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้รับการแปล W3Techs ประเมินว่าในฐานข้อมูลออนไลน์ยอดนิยม 10 ล้านเว็บไซต์มีสิ่งที่เป็นเนื้อหาภาษาไทยเพียง 0.5% เท่านั้น (อัพเดทเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2020)

ดังนั้นใครที่ต้องการจะเก่งกว่าคนอื่น รู้มากกว่าคนอื่น และทำได้ดีกว่าคนอื่น คุณจำเป็นต้องมีภาษาต่างประเทศติดตัวไว้เป็นอาวุธข้างกาย เหล่านี้เป็น 5 อันดับตัวเลือกการเรียนภาษาที่เป็นประโยชน์สำหรับคนไทยยุคใหม่โดยเฉพาะ

ภาษาตะวันตก ตัวเลือกแรก ๆ ของการเรียนภาษา เปิดโลกทัศน์ของผู้เรียนให้กว้างไกล

1.ภาษาอังกฤษ

แม้ว่าการศึกษาไทยจะสนับสนุนให้เด็กศึกษาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ยังมีจำนวนคนที่ใช้ทั้ง 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียนได้อย่างคล่องแคล่วน้อยเต็มที นั่นเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของคนไทยนั้นไม่เอื้อ เนื่องจากการสื่อสารส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันเกิดขึ้นเป็นภาษาไทย ทักษะภาษาอังกฤษจึงไม่ได้รับการต่อยอดจนใช้ได้จริงในระดับการทำงานขั้นสูง และด้วยจำนวนเว็บไซต์ที่มีในโลกกว่า 59.7% เป็นภาษาอังกฤษ คนที่เก่งภาษานี้จะรู้กว้าง เอาตัวรอดเก่งและปรับตัวได้ไวกว่าคนอื่น นี่จึงเป็นภาษาแรกที่คุณควรฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ เพราะมันมีประโยชน์มากจริง ๆ ในทุกแง่มุมของชีวิต คุณสามารถเลือกใครก็ได้ที่เก่งภาษาอังกฤษมาสัมภาษณ์ เขาจะบอกคุณได้แน่นอนว่าภาษานี้เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไร

2.ภาษาเยอรมัน

ภาษาเยอรมันยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนภาษาที่สาม เยอรมันเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ผู้คนให้ความสนใจในวิทยาการต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ Benz และ BMW ต่างก็มาจากประเทศนี้ ภาษาเยอรมันจึงเป็นภาษาที่นิยมใช้ในวงการวิทยาศาสตร์รองจากภาษาอังกฤษ และด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานทำให้เยอรมันมีศิลปินคลาสสิคและนักวรรณกรรมชื่อดังไม่น้อยที่โด่งดังไปทั่วโลก เช่น เกอเธ่, คาฟกา, โมสาร์ท และบีโธเฟน แต่ละท่านล้วนแต่คุ้มค่าแก่การศึกษาผลงานอย่างยิ่ง ใครที่สนใจเรียนภาษาจากยุโรป เยอรมันเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ทำให้ผู้เรียนผิดหวัง แถมท้ายอีกนิดว่ามีคนไทยแต่งงานกับชาวเยอรมันเยอะมาก จนกลายเป็นชุมชนถาวรที่นั่นไปแล้ว นี่จึงเป็นภาษาที่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด

เรียนภาษาเอเชียตะวันออก โอกาสในการทำธุรกิจและการเข้าถึง Pop Culture ที่ดีที่สุดในเอเชีย

3.ภาษาจีน

ภาษาจีนกลายเป็นภาษาอันดับต้น ๆ ที่น่าเรียนในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนนั้นสูงมาก ดูได้จาก GDP ในแต่ละปี ส่งผลให้คนที่คบค้ากับคนจีนร่ำรวยกันถ้วนหน้า ภาษาจีนเหมาะสำหรับคนไทยที่อยากทำธุรกิจส่วนตัว เพราะของที่นำเข้าจากจีนนั้นถูกแสนถูก นำมาขายต่อได้กำไรงาม และเนื่องจากคนจีนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย คนที่พูดจีนได้ถือว่าได้ก้าวข้ามกำแพงอันยิ่งใหญ่นี้ไปแล้ว จึงมีโอกาสมากกว่าคนอื่นอย่างมหาศาล และด้วยจำนวนประชากรของประเทศจีนที่มีมากกว่า 1,300 ล้านคนไม่นับคนจีนโพ้นทะเล ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ฝึกภาษาจีนไปอย่างไรก็ได้ใช้แน่นอน

4.ภาษาญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะไทยและเวียดนามมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้มีบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่ในไทยอยู่หลายอุตสาหกรรม เช่น บริษัทผู้ผลิต รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร บริษัทญี่ปุ่นได้รับการชื่นชมตลอดมาว่าให้ผลตอบแทนดีทั้งเงินเดือนและสวัสดิการ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้แสวงหาความมั่นคงในชีวิต อีกประการหนึ่งคือภาษาญี่ปุ่นยากและซับซ้อนมาก คนที่ได้ภาษานี้จึงมีน้อย ส่งผลให้รายได้ดีไปโดยปริยาย ข้อดีอีกประการของภาษาญี่ปุ่นคือเข้าถึงได้ง่ายเพราะมี Pop Culture ที่แข็งแกร่ง ฝึกภาษาแล้วสนุกเพราะมีสื่อดี ๆ ให้เลือกเสพกันไม่หวาดไม่ไหว

5.ภาษาเกาหลี

คงไม่มีใครปฏิเสธอีกแล้วว่าวัฒนธรรมเกาหลีส่งผลต่อ Pop Culture ของบ้านเราและทั่วโลกมากแค่ไหน มีเด็กไทยที่ผันตัวเองไปเป็นไอดอล K-pop มีซีรีย์และภาพยนตร์เกาหลีชั้นดีเข้ามาตีตลาดบ้านเราจนแตกกระจุยกระจาย มีบริษัทชั้นนำมาเปิดตลาดในเมืองไทย นี่ทำให้ภาษาเกาหลียังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แรงงานที่พูดภาษาเกาหลีได้ดีจึงเป็นที่ต้องการตัว ภาษาเกาหลีจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่คลั่งไคล้ในวัฒนธรรมเกาหลีอยู่แล้ว และด้วยจำนวนคู่แข่งที่ยังไม่สูง ทำให้ยังมีโอกาสทางเศรษฐกิจอีกมากสำหรับตัวเลือกนี้

ชาวมิลเลนเนียมที่กำลังจะเข้าสู่วัยทำงานในไม่ช้านี้ ควรตระหนักว่าภาษาที่สองและสามเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นประตูด่านแรกในการเข้าถึงองค์ความรู้ที่จำเป็นในโลกการทำงาน ในยุคที่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา โลกทัศน์ของคนที่ได้หลายภาษากับคนที่ได้แต่ภาษาแม่นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เชื่อแน่ว่าไม่มีใครที่รู้ตั้งแต่สองภาษาขึ้นไปแล้วจะหางานทำไม่ได้ในดินแดนขวานทองแห่งนี้ การเรียนภาษาให้ชำนาญต้องใช้เวลาหลายปี หากเริ่มเรียนเลยวันนี้รับรองว่าอนาคตไกลแน่นอน

เครดิตภาพ : https://pixabay.com