ฟ้าทะลายโจร ความหวังใหม่สมุนไพรไทยสู่ยาต้าน Covid–19

ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ Covid-19 ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าของโลก ไวรัสที่ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะในการแพร่เชื้อสู่ผู้คนที่ใช้ชีวิตประมาท และคร่าชีวิตมนุษย์อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกที่ใกล้แตะหลักล้านคนเข้าไปทุกที ไม่น้อยไปกว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ขยับขึ้นทุกวันจนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง อานุภาพในการทำลายล้างที่น่ากลัวกว่าอาวุธสงครามใด ๆ

ฟ้าทะลายโจร ใช่ความหวังใหม่ต้านโควิด-19 หรือไม่

สถานการณ์โควิด-19 ที่ทวีความรุนแรง ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย รัฐบาลกำหนดมาตรการออกมามากมายเพื่อปกป้องและป้องกันคนไทยให้รอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชตัวเล็กจิ๋วที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องขอบคุณกลุ่มนักรบเสื้อกาวน์ บุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อช่วยรักษาเพื่อนมนุษย์ที่กำลังถูกเจ้าไวรัสร้ายนี้เล่นงานไม่เว้นแต่ละวัน แต่ก็ยังมีคนกลุ่มเล็ก ๆ อีกกลุ่ม ที่กำลังระดมสมองคิดค้นอาวุธที่จะมาสู้กับเจ้าเชื้อโรคล่องหนเหล่านี้

โดยเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกแถลงการณ์ว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมถึงองค์การเภสัชกรรม 3 หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของคนไทย ได้จับมือทำความร่วมมือในการทำวิจัยสารแอดโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) สารชนิดหนึ่งที่อยู่ในสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ซึ่งประเทศจีนได้เคยทำการวิจัยและทดลองใช้สารดังกล่าวกับเชื้อไวรัสซาร์ส ไวรัสตระกูลโคโรนาสายพันธุ์หนึ่งที่ได้คร่าชีวิตผู้คนมากมายในอดีต โดยทำการวิจัยในหลอดทดลอง และพบว่าสามารถป้องกันไม่ให้ไวรัสซาร์สเข้าสู่เซลล์ และมีฤทธิ์ในการยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี

แต่สำหรับ โควิด-19 นั้น ในขณะนี้ยังไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์หรืองานวิจัยใด ๆ ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าสาร
แอดโดรกราโฟไลด์จะสามารถยับยั้งและป้องกันได้ ทั้งนี้ต้องรอผลวิจัยจากทีมนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยให้พวกเราผ่านพ้นวิกฤตการณ์อันเลวร้ายนี้ไปได้ในเร็ววัน มาถึงตรงนี้เรามาทำความรู้จักว่าที่ฮีโร่ของเรากันดีกว่า มาดูกันว่าหากไม่ใช่เพราะเจ้าไวรัสล้างโลกนี้ ฟ้าทะลายโจรจะยังเป็นฮีโร่ทางการแพทย์อยู่หรือไม่

ทำความรู้จัก “ฟ้าทะลายโจร” ว่าที่ฮีโร่พันธุ์ใหม่แห่งวงการแพทย์ไทย

ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชตระกูลล้มลุก หนึ่งในสมุนไพรไทยที่ขึ้นทะเบียนเป็นยาสามัญประจำบ้าน ยาที่ทุกบ้านควรมีติดไว้ และเป็นพืชที่ควรปลูกไว้สำหรับดูแลสมาชิกในบ้าน ตัวต้นไม่สูงมากนัก เป็นพืชสมุนไพรรสขม ตรงตามสุภาษิตที่ว่า “หวานเป็นลมขมเป็นยา” ทุกส่วนของต้นที่อยู่เหนือดินสามารถนำมาทำยาได้ทั้งหมด แต่จะสามารถนำมาใช้เมื่อต้นมีอายุครบ 3 – 5 เดือนแล้วเท่านั้น

สารหลักในฟ้าทะลายโจรที่มีฤทธิ์บรรเทาและรักษาโรค

1.Andrographolide มีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

2.Anti-inflammatory and analgesic มีฤทธิ์แก้ปวดและแก้อักเสบ

3.Arabinogalactan มีฤทธิ์แก้ไอ

สรรพคุณฟ้าทะลายโจรที่ควรท่องจำให้ขึ้นใจ

1.บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และไข้หวัดใหญ่

2.กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง

3.เป็นยาที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดอาการของโรคที่มีฤทธิ์ร้อน อาทิ ร้อนใน ตัวรุม มีไข้สูง

4.ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ อาทิ เจ็บคอ ไอ ขับเสมหะ ต่อมทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ

5.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยคืนความสดชื่นให้ร่างกายดูอ่อนกว่าวัย

6.มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย

7.มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อมาลาเรีย

8.มีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดและลดความดันเลือด

9.มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัส โดยเฉพาะไวรัสที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ

10.บรรเทาอาการติดเชื้อที่ทำให้ท้องเสีย ปวดท้อง กระเพาะอาหาร และลำไส้

เคล็ดลับตำรายาแผนไทยสูตรฟ้าทะลายโจรที่ทำเองได้ง่าย ๆ

หากคุณไม่ต้องการซื้อแบบสำเร็จมาทาน และมีต้นฟ้าทะลายโจรปลูกไว้ในบ้าน แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร และสามารถรักษาอาการใดได้บ้าง วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาแบ่งปัน

1.แก้ร้อนใน

ให้นำใบแก่และใบเตยมาต้มน้ำร้อนในอัตราส่วนที่เท่ากัน ทิ้งไว้ให้เดือด ดื่มก่อนอาหารหรือดื่มแทนน้ำเปล่าได้ตลอดวัน

2.แก้ท้องเสีย ท้องร่วง

สูตรนี้ให้ใช้ทั้งกิ่งและใบสดมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มจนเดือด พักให้พออุ่นแล้วนำมาดื่มก่อนอาหารทุกมื้อ เพื่อบรรเทาอาการ

3.ผมร่วงผิดปกติ

ใช้ใบสดประมาณ 7 – 10 ใบ แช่ในน้ำอุ่นเล็กน้อยและบีบจนน้ำในใบซึมออกมา นำมาหมักให้ทั่วทุกเส้นผม ทิ้งไว้ไม่เกิน 10 นาทีแล้วล้างออก

4.บรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล

ใช้ใบสดประมาณ 2 – 3 กำ ล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้งแต่ห้ามตากแดดโดดเด็ดขาด จากนั้นนำมาบดหรือปั่นให้ละเอียด เก็บใส่กระปุก เขย่าก่อนใช้ เพื่อสูดดมบรรเทาอาการ

5.รักษาอาการไข้หวัดเล็ก หวัดใหญ่

เด็ดใบสด 2 – 3 ใบเล็ก ชงกับน้ำ และดื่มวันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน

ปริมาณฟ้าทะลายโจรที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม

1. ไม่มีอาการไข้ แต่ทานเพื่อป้องกันและเสริมภูมิคุ้มกัน

วันละ 1 แคปซูล (หลังอาหารมื้อใดก็ได้) สัปดาห์ละไม่เกิน 5 วัน และสามารถทานติดต่อกันได้นานถึง 3 เดือน

2.ทานเมื่อมีอาการไข้

ผู้ใหญ่ ทานครั้งละ 3 แคปซูล (400 มก.) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน ทานติดต่อกันได้ไม่เกิน 7 วัน หากทานติดต่อกัน 3 วันแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นให้หยุดและไปพบแพทย์ทันที

ข้อควรระวังถึงเป็นสมุนไพรก็ควรใช้อย่างมีข้อจำกัด

1.ไม่ควรบริโภคติดต่อกันเกินกว่า 1 สัปดาห์ เพราะจะเกิดผลข้างเคียง อาทิ อาหารไม่ย่อย ท้องอืด แขนขาอ่อนแรง

2.ไม่ควรใช้ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 4 ปี

3.สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจส่งผลต่อลูกน้อย

4.ไม่ควรใช้กับผู้ที่มีอาการไข้เย็น อาทิ เป็นไข้หนาวสั่น เพราะฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็น จะยิ่งทำให้อาการไข้แย่ลงไปอีก

5.ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีความดันต่ำ เพราะยามีฤทธิ์ช่วยลดความดัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันสูง

6.หากมีอาการแพ้ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับตำรับยา “ฟ้าทะลายโจร”

สารแอดโดรกราโฟไลด์มีคุณสมบัติละลายในแอลกอฮอล์ได้ดี แต่ละลายในน้ำได้ไม่ดีนัก จึงทำให้สูตรที่นำมาผสมแอลกอฮอล์ใช้เป็นยาทาแผลสดจะออกฤทธิ์แรงที่สุด และสูตรที่ใช้ชงดื่มมีฤทธิ์รองลงมา ส่วนแบบสำเร็จรูปชนิดเม็ดหรือแคปซูลที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปจะมีฤทธิ์อ่อนที่สุด

สรุป

หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงได้คำตอบที่ถามไว้ในตอนต้นกันแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรคือฮีโร่ทางการแพทย์และเภสัชกรรมขนานแท้ สรรพคุณต่าง ๆ ที่ช่วยดูแลมนุษย์เราเป็นอย่างดีมาตลอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญในการกำจัดไวรัส Covid-19 ให้หมดไปเสียที บทเรียนราคาแพงของมวลมนุษยชาติที่ต่อให้ผ่านไปนานเท่าไหร่ เชื่อได้ว่าจะยังคงชัดเจนอยู่ในใจทุกคนเป็นแน่

https://pixabay.com