ตกงานเพราะหุ่นยนต์ อาชีพไหนบ้างที่หุ่นยนต์กำลังจะมาแทนที่

พวกเรากำลังร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไม่มีครั้งใดเลยที่มนุษยชาติจะได้ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้การติดต่อกับคนที่อยู่อีกซีกโลกเป็นไปได้ในเสี้ยววินาที มีสื่อที่ใคร ๆ ก็สร้างและเป็นเจ้าของได้ การแพทย์ก็เจริญก้าวหน้าจนกำลังจะเอาชนะโรคมะเร็ง ในเวลาเดียวกันนี้หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ก็ก้าวหน้าจนทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในหลายหน้าที่ ส่งผลให้การผลิตก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ถึงแม้ว่าการใช้เครื่องจักรอัตโนมัติจะดีต่อต้นทุนการผลิต ทำให้เราได้ใช้สินค้าราคาถูก แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องตกงาน โดยเฉพาะพนักงานระดับล่างที่ถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ สำนักข่าว BBC ของประเทศอังกฤษคาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า เฉพาะงานในโรงงานจะหายไปถึง 20 ล้านตำแหน่ง

เรามีการคาดการณ์อาชีพที่มีวี่แววว่าจะต้องสูญเสียตำแหน่งงานให้กับหุ่นยนต์ในเวลาอีกไม่นาน พร้อมคำแนะนำในการใช้ชีวิตต่อจากนี้มาฝาก

 

อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่หุ่นยนต์จะมาแทนที่ ผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบโดยตรง

1. ลูกจ้างในสายการผลิตของโรงงาน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าค่าแรงเป็นต้นทุนก้อนโตสำหรับโรงงาน ไหนจะมีเรื่องของกฎหมายและสหภาพที่เจ้าของโรงงานต้องคำนึงถึง ประกอบกับลักษณะงานที่ค่อนข้างซ้ำซาก โรงงานจึงเป็นสถานที่แรก ๆ ที่นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้แทนมนุษย์ โรงงานระดับโลกหลายแห่ง เช่น Tesla ก็ไม่ใช้คนในสายการผลิตอีกต่อไป เครื่องจักรทำงานได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมงโดยไม่มีบ่น เป็นความเปลี่ยนแปลงที่มาถึงประเทศไทยแน่นอน ในเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า

2. คนขับรถแท็กซี่

หากใครติดตามนวัตกรรมยานยนต์ของโลก คงจะทราบดีว่าตอนนี้มีรถยนต์ไร้คนขับพร้อมให้บริการแล้วในหลายประเทศ และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า รวมถึงปลอดภัยกว่าคนขับเองอีกด้วย แม้จะยังไม่เป็นจริงใน 5 – 10 ปีในเมืองไทย แต่เมื่อต้นทุนการผลิตต่ำจนถึงจุดหนึ่งแล้ว สุดท้ายแล้วมันจะต้องมาแน่นอน

3. เกษตรกร

เกษตรกรเป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่ประโยคนี้จะยังเป็นความจริงหรือเปล่าในยุค 5.0 แม้กระแสนี้จะยังไม่เข้ามาในบ้านเราเสียทีเดียว แต่เมื่อต่างชาตินำเทคโนโลยีมาใช้ ต้นทุนการผลิตต่อไร่จะต่ำกว่าเมืองไทย เพราะไม่ต้องพึ่งพาแรงงาน ทำให้ประเทศไทยส่งออกผลผลิตไม่ได้ เพราะสู้ราคาไม่ไหว ผู้บริโภคอาจหันมาทานของนำเข้าแทนเพราะราคาถูกกว่า อีกทั้งคนหนุ่มสาวสมัยนี้ก็หันไปทำงานในเมืองกันมาก ปัจจัยทั้งหลายนี้ทำให้ชาวนาชาวสวนต้องเลิกไปโดยปริยาย

คนทำงานงานห้องแอร์ก็หนีไม่พ้นผลกระทบจากหุ่นยนต์ ทุกอาชีพจึงต้องพร้อมปรับตัวรับมือ

4. พนักงานธนาคาร

แต่เดิมพนักงานธนาคารมีหน้าที่ให้บริการลูกค้าทำธุรกรรมต่าง ๆ ปัจจุบันการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันทั้งง่ายทั้งสะดวกกว่าเดิมมาก แถมยังไม่มีค่าธรรมเนียมให้ลำบากใจ ยิ่งเดี๋ยวนี้การขอสินเชื่อสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ว บทบาทของพนักงานธนาคารจึงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จนธนาคารทุกแห่งทยอยปิดสาขาที่ไม่จำเป็น ทำให้ความต้องการจ้างงานลดน้อยลงด้วย

5. พนักงานบริษัทประกันภัย

คอมพิวเตอร์แปลว่าเครื่องคำนวณ การคิดเลขจึงเป็นสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ทำได้ดีที่สุด บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นได้ทดลองใช้ AI ทำงานแทนมนุษย์ พบว่าผลิตผลสูงขึ้นถึงร้อยละ 30 และเมื่อใช้เครื่องคอมพิวเตอร์มาคำนวณเบี้ยประกันแทนมนุษย์ก็ยังทำได้สมบูรณ์แบบ แถมยังประหยัดแรงงานในส่วนนี้ไปได้ทั้งหมด จนเกิดการปลดพนักงานครั้งใหญ่ตามมา

6. นักบัญชี

แม้แต่วิชาชีพที่มีความมั่นคงสูงอย่างนักบัญชีอาจต้องเริ่มปรับตัวเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง เพราะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ประเมินกันว่าจะถูกแทนที่ด้วย AI  ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า โปรแกรมคำนวณต่าง ๆ ก็ยิ่งจะสมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ และหากเราเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบเมื่อไหร่ นักบัญชีอาจแทบไม่มีความจำเป็นอีกเลย อย่างไรก็ดีงานบัญชียังคงต้องการผู้ตรวจสอบอยู่ แต่ปริมาณงานจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

7. พนักงานขายทางโทรศัพท์

ในยุคที่บริษัทต่าง ๆ หันมาใช้ AI กันมากขึ้น ข้อความต่าง ๆ สามารถบันทึกและถูกวิเคราะห์ได้โดยคอมพิวเตอร์ การใช้พนักงานที่เป็นคนจัดเป็นความสิ้นเปลืองด้านงบประมาณ ทุกวันนี้จำนวนคนทำงานนี้ก็ลดจำนวนลงมากแล้ว เพราะมีช่องทางการขายอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพกว่า คาดว่าจะอาชีพที่สาบสูญไปในอนาคต

สรุป

เมื่อทิศทางของโลกเป็นเช่นนี้ คนทำงานหาเงินอย่างเรา ๆ จะทำอย่างไร? กระแส Automation และ AI กำลังมาแรง และไม่มีทางหยุดมันได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง หนึ่งในชุดความคิดที่จำเป็นที่สุดในยุคอนาคตคือความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ เมื่ออาชีพหนึ่งหายไป เราต้องพร้อม Move On แล้วฝึกฝนงานใหม่ทันที โดยไม่ไปยึดติดกับความสำเร็จที่ผ่านมาแล้วในอดีต ยังมีงานอีกมากที่ต้องการความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้ คุณล่ะ? พร้อมหรือยังที่จะก้าวสู่เส้นทางใหม่หากความเปลี่ยนแปลงมายืนอยู่เบื้องหน้า

Credit : https://pixabay.com