คนขายของเป็นเขารู้อะไร ทำไมถึงขายเก่ง ขายดีกันทุกวัน

กิจกรรมที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของธุรกิจก็คือการขาย ธุรกิจส่วนตัวจะขาดฝ่ายหลังบ้านสักกี่ตำแหน่งก็ยังพอประคองตัวอยู่ได้ แต่จะขายฝ่ายขายไม่ได้เลย เพราะเป็นเหมือนผู้แสวงหาอาหารเข้าบ้าน เพื่อหล่อเลี้ยงกิจการให้มีรายได้ต่อไป หากสังเกตจะพบว่าแม้จะทำธุรกิจเดียวกัน ขายของแบบเดียวกัน แต่ละร้านกลับขายดีไม่เท่ากัน สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ เราอยากแนะนำเคล็ดลับของคนขายของเป็นเพื่อให้คุณได้นำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ

เคล็ดลับข้อแรกของเจ้าของธุรกิจส่วนตัว “อยากขายของให้เก่งต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน”

เริ่มจากการขายตัวเองให้ได้ก่อน

ในยุคที่ธุรกิจขายของออนไลน์เฟื่องฟูจนแทบจะแทนห้างสรรพสินค้าแบบเดิม ๆ พ่อค้าแม่ค้าล้วนมีช่องทางในการพบเจอกับลูกค้าในรูปแบบโซเชียลมีเดียและไลฟ์สด ดังนั้นการเริ่มต้นขายของจึงไม่ได้เริ่มจากสินค้าแต่แรก แต่เป็นตัวคนขายที่ลูกค้ามองหา หากลูกค้าไม่ชอบคนขายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็มีแนวโน้มว่าลูกค้าจะมองหาสินค้าจากร้านอื่นที่สบายใจกว่า ดังนั้นจงนำเสนอตัวเองให้น่าสนใจ แต่งตัวให้ดูดี มีอัธยาศัยและจริงใจกับลูกค้า ไม่ว่าจะทั้งออฟไลน์หรือออนไลน์ ลองนึกภาพแม่ค้าที่คุณชอบไปอุดหนุนแล้วคิดว่าบุคลิกของเขามีอะไรน่าดึงดูดให้คุณต้องซื้อซ้ำ

รู้จักสินค้าตัวเองให้ถ่องแท้

หลาย ๆ ครั้งคนทำธุรกิจไม่ได้ผลิตสินค้าด้วยตัวเอง แต่รับมาจากที่อื่น ในกรณีนี้คุณควรจะศึกษาและทำความรู้จักสินค้าที่ตัวเองขายให้ครบทุกแง่มุม เช่น สินค้าตัวนี้ทำจากอะไร พิเศษอย่างไร เหมาะกับใครมากที่สุด และมีข้อเสียอย่างไร ถ้าจะให้ดีต้องเปรียบเทียบกับสินค้าใกล้เคียงกันให้ได้ด้วย ลูกค้าสมัยนี้ฉลาดและเข้าถึงข้อมูลได้ไม่ต่างจากแม่ค้าขายของออนไลน์เลย การปิดบังข้อเสียจึงเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ไม่ได้อีกต่อไป ความรู้ที่คุณมีต่อสินค้าจะทำให้คุณได้รับความเชื่อถือ และเขาจะซื้อจากคุณเพราะความเชื่อใจนี้เอง

พยายามฟังให้มากกว่าพูด

คนขายที่เก่งไม่ใช่คนที่พูดแต่เรื่องของตัวเอง แต่กลับเป็นคนที่พยายามจับจุดลูกค้าว่าต้องการอะไร ลูกค้าหนึ่งร้อยคนก็หนึ่งร้อยความต้องการ ลองตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกค้าพูดแล้วคิดตาม ว่าลึก ๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากสินค้าของเขา และสินค้าของเราจะตอบโจทย์เขาอย่างไรได้บ้าง

รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ธุรกิจส่วนตัวก็เช่นกัน ต้องรู้จักลูกค้าด้วยว่าเขาต้องการอะไร

เข้าใจลูกค้าของตัวเอง

ลูกค้าแต่ละคนมีงบประมาณไม่เท่ากัน การพยายามขายสินค้าชิ้นเดียวกันกับคนหลายคนที่มีฐานะต่างกันจึงไม่ใช่หนทางการขายที่ประสบความสำเร็จ เพราะเรื่องราคาเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ตัดสินว่าลูกค้าจะซื้อหรือไม่ คุณจึงควรแน่ใจก่อนว่ากลุ่มที่คุณจะเสนอขายนั้นมีกำลังซื้อเพียงพอและอยู่ในระดับเดียวกับสินค้าที่กำลังขาย นี่รวมถึงการใช้งานและรสนิยมของลูกค้าด้วยที่คุณต้องเข้าใจก่อนเสนอขายอะไรกับใคร

เข้าใจแรงจูงใจของคนที่กำลังเสนอขาย

กลยุทธ์การขายที่ทรงพลังที่สุดก็คือการทำให้ลูกค้าเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องซื้อของจากเรา สิ่งที่เราขายนั้นดีต่อชีวิตของเขาอย่างไร และเขาจะได้อะไรหากซื้อไปแล้ว อย่าลืมพูดถึงแต่ว่าสินค้าทำอะไรได้บ้าง (Features) จนลืมกล่าวถึงสิ่งที่ลูกค้าจะได้เมื่อซื้อไปแล้ว (Benefits) ข้อนี้สำคัญมากและเป็นหัวใจสำคัญของการขาย เพราะมนุษย์เราย่อมสนใจแต่ตัวเองก่อน คนทำธุรกิจส่วนตัวจึงควรเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางตั้งแต่แรก

ทำให้ง่ายเข้าไว้เมื่อต้องนำเสนอ

เวลาขายของ หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์ยากหากไม่จำเป็น คนขายของเก่งไม่จำเป็นต้องแสดงตัวว่าเป็นคนรู้มาก เวลาพูดจึงควรพยายามอยู่ในระดับเดียวกับผู้ซื้อ พูดให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย ๆ โดยใช้เวลาไม่นาน (พยายามอย่าให้เกิน 30 วินาที) และควรฝีกซ้อมกับตัวเองหน้ากระจกก่อนการขายจริง

อย่าลืมปิดการขายทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

หนึ่งในข้อผิดพลาดของผู้ขายจำนวนมากก็คือ แม้จะนำเสนอทุกอย่างมาจนเกือบถึงเส้นชัยแล้ว แต่กลับไม่เสนอขายให้ชัดเจน ในวงการเซลล์ตะวันตกมีคำขวัญ ABC ซึ่งย่อมาจาก “Always Be Closing.” หมายถึงให้ปิดการขายเสมอ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าเลือกสินค้าและมีทีท่าสนใจชัดเจน คนขายอาจพูดว่า “เอาตัวนี้นะคะ? “จะให้ส่งวันไหนดีครับ?” หรือจะใช้เทคนิคด้านเวลา เช่น ลดราคาถือวันที่…เท่านั้น เป็นต้น มีเทคนิคมากมายในการปิดการขายที่นำไปใช้ได้ แม้แต่การขายของออนไลน์ แต่แนวคิดก็คือต้องทำเสมอทุกครั้ง

ข่าวดีก็คือพวกเราทุกคนต่างเคยขายอะไรบางอย่างกันทั้งนั้น คนหางานก็ขายความสามารถเพื่อให้ได้งาน แม้แต่การจูงใจและการสอนหนังสือก็ไม่ต่างจากการขาย เพราะเป้าหมายคือการโน้มน้าวใจผู้ฟังให้ได้ การขายจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนฝึกฝนให้เก่งกาจได้ ไม่ใช่แค่เจ้าของธุรกิจส่วนตัว คำกล่าวที่ว่า “ความต้องการของลูกค้าต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง” ยังคงเป็นความจริงเสมอ อีกหนึ่งอย่างที่ต้องย้ำไว้ก็คือ “อย่ากลัวคำปฏิเสธของลูกค้า” จำไว้ว่ายิ่งเราเจอคำปฏิเสธมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเจอคนที่ตกลงเร็วขึ้นเท่านั้น ทำตามนี้ได้เชื่อว่าทุกคนจะเป็นนักขายชั้นเยี่ยมได้ในที่สุด

เครดิตภาพ : https://pixabay.com