1 min read
ขนสัตว์เลี้ยงทำให้ลูกเป็นภูมิแพ้ เรื่องจริงหรือแค่เข้าใจผิด
การเลี้ยงสัตว์อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน แตกต่างกันที่ในปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์ได้เปลี่ยนจากการเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านหรือให้อยู่เฉพาะบริเวณบ้าน มาเป็นการเลี้ยงสัตว์ในบ้านแบบใกล้ชิดมากขึ้น จนถึงขั้นนอนบนเตียงเดียวกันในหลายครอบครัว ขัดแย้งกับการเลี้ยงเด็ก ที่เราต่างทราบกันดีว่า ควรรักษาสุขอนามัยให้ดีที่สุด ต้องป้องกันเชื้อโรคและภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยรอบตัว จนทำให้คนรักสัตว์ทั้งหลายเกิดความกังวลใจ ว่าขนสัตว์เลี้ยงแสนรักจะทำให้ลูกน้อยป่วยเป็นภูมิแพ้ได้หรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรเพื่อหาทางออกที่ลงตัว
ทำความเข้าใจเบื้องต้น โรคภูมิแพ้ในเด็กคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร
ภูมิแพ้ คือปฏิกิริยาภูมิไวเกินของร่างกาย เป็นการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เข้ามาในร่างกาย ซึ่งภูมิแพ้แบ่งได้เป็นหลายประเภทตามชนิดของสารก่อภูมิแพ้ โดยที่กระบวนการแพ้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายเคยได้รับสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นมาก่อน ร่างกายมีการจดจำสารก่อภูมิแพ้และสร้างสารภูมิคุ้มกันต่อต้านไว้ เมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้อีกครั้ง อาการของโรคภูมิแพ้จึงปรากฏให้เห็น
โรคภูมิแพ้ในเด็กที่เกิดจากขนสัตว์แตกต่างจากภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ หรือไม่
โรคภูมิแพ้จากขนสัตว์ในเด็ก เป็นภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่มีอาการแสดงออกเช่นเดียวกับภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ คือ ทำให้มีอาการคันตา ตาแดง ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก และมีผื่นแดงตามตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่ระดับความรุนแรงของการแพ้ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากลูกน้อยมีอาการของโรคภูมิแพ้ดังกล่าวข้างต้น และยังไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง ก็จะไม่สามารถกล่าวอ้างได้ว่าอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากขนสัตว์เลี้ยง เพราะอาจเป็นภูมิแพ้จากไรฝุ่น เกสรดอกไม้ ซากแมลงสาป หรืออาหารก็เป็นได้
ทำไมขนสัตว์จึงก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
แท้จริงแล้วภูมิแพ้ขนสัตว์ที่เข้าใจกันไม่ได้เกิดจากร่างกายต่อต้านขนสัตว์โดยตรง แต่เกิดจากการแพ้โปรตีนจากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ หรือปัสสาวะ ที่ติดตามขนสัตว์เลี้ยง ดังนั้นขนสัตว์จึงเป็นเหมือนพาหะที่นำสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายเท่านั้น
อีกทั้งความเชื่อที่ว่า “ขนสัตว์สามารถเข้าไปสะสมในปอดจนก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้” ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกลไกของร่างกายสามารถกำจัดเส้นขนขนาดใหญ่ได้ตั้งแต่ในโพรงจมูกด้วยการจามแล้ว ทำให้โอกาสที่เส้นขนจะเข้าไปในหลอดลมและเนื้อปอดนั้นเป็นไปไม่ได้
จะทราบได้อย่างไรว่าลูกเป็นภูมิแพ้ที่เกิดจากขนสัตว์
- เคยมีประวัติสัมผัสสัตว์มามากกว่า 1 ครั้ง หากเป็นการสัมผัสครั้งแรกแล้วมีอาการของโรคภูมิแพ้เกิดขึ้นมักไม่ใช่เป็นภูมิแพ้จากขนสัตว์ เนื่องจากร่างกายจะแสดงอาการของภูมิแพ้ได้ก็ต่อเมื่อเคยได้รับสารก่อภูมิแพ้มาก่อนหน้านี้
- สังเกตพบว่าอาการแย่ลงเสมอเมื่อมีการสัมผัสกับสัตว์ในครั้งต่อไป
- อาการหายไปเมื่อไม่ได้สัมผัสสัตว์เลี้ยงนาน 1-2 สัปดาห์
- ตรวจพบจากการวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ เช่น การทดสอบภูมิแพ้บนผิวหนัง หรือการตรวจสารต่อต้านภูมิแพ้ในเลือด
ดังนั้นหากอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นไม่สัมพันธ์กับข้อกำหนดข้างต้น ขนสัตว์อาจตกเป็นจำเลยโดยไม่ได้เป็นสาเหตุของภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้
หากตรวจพบว่าลูกเป็นภูมิแพ้ขนสัตว์จริง แต่ยังอยากเลี้ยงสัตว์ควรทำอย่างไร
ก่อนอื่นต้องพิจารณาถึงความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นก่อน ว่ามีความรุนแรงในระดับไหน หากเป็นภูมิแพ้ชนิดรุนแรงมาก แนะนำให้ทำใจเลิกเลี้ยงไปเลย เนื่องจากอาจเป็นอันตรายถึงกับชีวิตได้ ในกรณีสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้แล้วร่างกายต่อต้านรุนแรงจนหายใจไม่ออก
แต่หากเป็นการแพ้ระดับน้อยหรือปานกลางอาจยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยอาศัยการดูแลจัดการดังนี้
- เลือกเลี้ยงสัตว์ที่มีขนสั้น ไม่พลัดขน หากเป็นไปได้ควรเลือกเลี้ยงสุนัขมากกว่าแมว เพราะมีโอกาสทำให้เกิดภูมิแพ้น้อยกว่า
- อาบน้ำสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ เพื่อลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้บนตัวสัตว์
- งดการสัมผัสสัตว์อย่างใกล้ชิด เช่น นอนด้วยกันบนเตียง
- ใส่ผ้าปิดจมูก เสื้อแขนยาว ขายาว หรือถุงมือ ในกรณีที่ต้องการสัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด และควรล้างมือหรืออาบน้ำให้สะอาดหลังสัมผัสสัตว์ทุกครั้ง
- พกยารักษาภูมิแพ้ติดตัวหรือติดบ้านไว้ตลอดเวลา ทั้งในรูปแบบของยากินและยาพ่น
- ปรึกษาคุณหมอเรื่องการทำวัคซีนภูมิแพ้ ในกรณีต้องการเลี้ยงสัตว์ในระยะยาว
จะเห็นได้ว่า “ภูมิแพ้ในเด็กจากขนสัตว์” เป็นสิ่งที่สามารถดูแลจัดการได้ ในกรณีที่ลูกน้อยเป็นภูมิแพ้ชนิดไม่รุนแรง แต่เหนือสิ่งอื่นใดควรวินิจฉัยให้ชัดเจนก่อนว่า อาการของภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นนั้นมาจาก ขนสัตว์จริง ๆ ไม่ได้เป็นภูมิแพ้ชนิดอื่น และคำกล่าวที่ว่า ขนสัตว์ทำให้ลูกเป็นภูมิแพ้ ก็จะไม่เป็นความจริงเสมอไป หากลูกของเราไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากขนสัตว์ ทั้งนี้ความกังวลและคำถามที่มีจะหมดไป ทั้งคุณ ลูกน้อย และสัตว์เลี้ยงก็จะสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข
Credit : https://pixabay.com
ต้องการมืออาชีพช่วยเขียนบทความ?
บริการเขียนบทความ
คุณภาพสูง เน้นการปรับแต่งให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจและบริการของคุณ!
เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วย
บทความ SEO
ที่ช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาของเว็บไซต์ของคุณ
ติดต่อตอนนี้เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ